สดุดี 95:1 |
มาเถิด ให้เราร้องเพลงรื่นเริงถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า ให้เราโห่ร้องแด่พระศิลาแห่งความรอดของเรา |
|
เอเฟซัส 5:19 |
จงสนทนากันด้วยเพลงสดุดี เพลงสรรเสริญและบทเพลงฝ่ายจิตวิญญาณ จงร้องและบรรเลงเพลงในใจถวายองค์พระผู้เป็นเจ้า |
|
ฮีบรู ๒:๑๒ |
พระองค์ตรัสว่า “ข้าพระองค์จะประกาศพระนามพระองค์แก่พี่น้องทั้งหลายของข้าพระองค์ จะร้องสรรเสริญพระองค์ต่อหน้าที่ประชุม” |
|
สดุดี 71:23 |
ริมฝีปากของข้าพระองค์จะโห่ร้องยินดี เมื่อร้องเพลงสรรเสริญพระองค์ เพราะพระองค์ทรงไถ่ข้าพระองค์ไว้ |
|
อพยพ ๑๕:๑ |
โมเสสและชาวอิสราเอลจึงร้องเพลงนี้ถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าว่า “ข้าพเจ้าจะร้องเพลงถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าเพราะพระองค์ทรงเป็นที่เทิดทูนสูงส่ง พระองค์ทรงเหวี่ยงม้าและพลม้า ลงในทะเล |
|
สดุดี ๑๐๕:๒ |
จงร้องเพลงถวายพระองค์ ร้องสรรเสริญถวายพระองค์ บอกถึงพระราชกิจอันมหัศจรรย์ทั้งสิ้นของพระองค์ |
|
สดุดี 49:4 |
ข้าพเจ้าจะเอียงหูฟังภาษิต ข้าพเจ้าจะใช้พิณขานไขปริศนา |
|
สดุดี ๑๐๑:๑ |
(บทสดุดีของดาวิด) ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์จะร้องเพลงถึงความรักมั่นคงและความยุติธรรมของพระองค์ ข้าพระองค์จะร้องบทเพลงสรรเสริญพระองค์ |
|
สดุดี 150:1-5 |
[1] จงสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้า จงสรรเสริญพระเจ้าในสถานนมัสการของพระองค์ จงสรรเสริญพระองค์ในฟ้าสวรรค์อันเกรียงไกรของพระองค์[2] จงสรรเสริญพระเจ้าเนื่องด้วยพระราชกิจอันทรงเดชานุภาพ จงสรรเสริญพระองค์เพราะความยิ่งใหญ่อันหาที่เปรียบมิได้[3] จงสรรเสริญพระองค์ด้วยเสียงแตรดังก้อง จงสรรเสริญพระองค์ด้วยพิณใหญ่และพิณเขาคู่[4] จงสรรเสริญพระองค์ด้วยรำมะนาและการเต้นรำ จงสรรเสริญพระองค์ด้วยเครื่องสายและปี่[5] จงสรรเสริญพระองค์ด้วยเสียงฉิ่งเสียงฉาบ จงสรรเสริญพระองค์ด้วยเสียงฉิ่งฉาบอันกังวาน |
|
โคโลสี ๓:๑๖ |
จงให้พระวจนะของพระคริสต์เปี่ยมล้นอยู่ในท่านขณะที่ท่านสั่งสอนและเตือนสติกันด้วยปัญญาทั้งสิ้น และขณะที่ท่านร้องเพลงสดุดี เพลงนมัสการ และบทเพลงฝ่ายวิญญาณด้วยใจกตัญญูต่อพระเจ้า |
|
สดุดี 98:1-7 |
[1] (บทสดุดี) จงร้องเพลงบทใหม่ถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า เพราะพระองค์ทรงกระทำการอัศจรรย์นานัปการ พระหัตถ์ขวาและพระกรบริสุทธิ์ของพระองค์ นำความรอดมา[2] องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงให้ความรอดของพระองค์เป็นที่รู้แจ้ง และสำแดงความชอบธรรมของพระองค์แก่ประชาชาติทั้งหลาย[3] พระองค์ทรงระลึกถึงความรักมั่นคงของพระองค์ และความซื่อสัตย์ของพระองค์ต่อวงศ์วานอิสราเอล คนทั่วทุกมุมโลกได้เห็น ความรอดของพระเจ้าของเรา[4] ชาวโลกทั้งสิ้นเอ๋ย จงโห่ร้องยินดีถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า จงเปล่งเสียงเพลงแห่งความชื่นบานคลอเสียงดนตรี[5] จงบรรเลงบทเพลงถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยพิณ ด้วยพิณและเสียงขับขาน[6] จงเป่าแตรและแตรเขาแกะ จงโห่ร้องด้วยความชื่นบานต่อหน้าพระยาห์เวห์จอมกษัตรา[7] ท้องทะเลและสรรพสิ่งในนั้น โลกและทุกชีวิตในโลก จงแซ่ซ้องกังวาล |
|
วิวรณ์ ๑๔:๓-๔ |
[๓] และเขาทั้งหลายขับร้องเพลงบทใหม่หน้าพระที่นั่งต่อหน้าสิ่งมีชีวิตทั้งสี่และเหล่าผู้อาวุโส ไม่มีใครสามารถร้องเพลงบทนั้นได้ นอกจากชน 144,000 คนที่ทรงไถ่ไว้จากแผ่นดินโลก[๔] คนเหล่านี้ไม่ข้องแวะกับสตรีเพศให้เป็นมลทินเพราะพวกเขารักษาตัวให้บริสุทธิ์ พวกเขาตามเสด็จพระเมษโปดกไปทุกแห่ง พวกเขาเป็นผู้ที่ทรงไถ่ไว้จากมวลมนุษย์เพื่อเป็นผลแรกถวายแด่พระเจ้าและพระเมษโปดก |
|
สดุดี ๑๓๕:๓ |
จงสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้า เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงแสนดี จงร้องเพลงสรรเสริญพระนามของพระองค์เพราะเป็นเรื่องน่ายินดี |
|
อาโมส ๖:๕ |
เจ้าเล่นพิณอย่างเบิกบานใจเหมือนดาวิด และแต่งเพลงใหม่ๆ สำหรับเครื่องดนตรี |
|
สดุดี ๕๗:๗ |
ข้าแต่พระเจ้า จิตใจของข้าพระองค์แน่วแน่ จิตใจของข้าพระองค์มั่นคง ข้าพระองค์จะขับร้องและบรรเลงดนตรี |
|
๒ พงศาวดาร ๕:๑๓ |
นักแตรและนักร้องได้ประสานกันอย่างกลมกลืนเป็นเสียงเดียวกัน ถวายสรรเสริญและขอบพระคุณองค์พระผู้เป็นเจ้า พร้อมด้วยเสียงแตร ฉาบ และเครื่องดนตรีต่างๆ พวกเขาเปล่งเสียงสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้าและร้องเพลงว่า “พระองค์ประเสริฐ ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงนิรันดร์” แล้วมีเมฆมาปกคลุมทั่วพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า |
|
สดุดี ๔๐:๓ |
พระองค์ทรงใส่เพลงบทใหม่ในปากข้าพเจ้า เป็นเพลงสรรเสริญแด่พระเจ้าของเรา คนทั้งหลายจะเห็นและยำเกรง และไว้วางใจในองค์พระผู้เป็นเจ้า |
|
Thai Bible (TNCV) 2007 |
Thai New Contemporary Bible Copyright © 1999, 2001, 2007 by Biblica, Inc.® |