|
๑ โครินธ์ ๔:๕ |
ดังนั้นอย่าเพิ่งด่วนตัดสินอะไรก่อนเวลา เมื่อองค์เจ้าชีวิตมา พระองค์จะเปิดเผยสิ่งต่างๆที่แอบซ่อนอยู่ในความมืด และแรงจูงใจของคนทั้งหลายจะถูกเปิดโปงออกมาให้เห็นชัดเจน จากนั้นพระเจ้าก็จะให้เกียรติพวกคุณแต่ละคนตามความเหมาะสม |
|
๑ ยอห์น ๒:๑๘ |
ลูกๆเอ๋ย วันสุดท้ายใกล้มาถึงแล้ว อย่างที่พวกคุณได้ยินแล้วว่าศัตรูของพระคริสต์กำลังจะมา เดี๋ยวนี้พวกศัตรูนั้นก็ได้มากันมากมายแล้ว ซึ่งทำให้เรารู้ว่าวันสุดท้ายใกล้มาถึงแล้ว |
|
ดาเนียล ๑๒:๔ |
ส่วนเจ้า ดาเนียล ให้เก็บเรื่องนี้เป็นความลับ และปิดผนึกหนังสือเอาไว้จนกว่าจะถึงเวลาของจุดจบนั้น คนเป็นจำนวนมากจะเดินทางไปโน่นไปนี่ และความรู้ก็จะเพิ่มขึ้น” |
|
อิสยาห์ ๔๖:๑๐ |
เราได้ทำนายตอนจบไว้ตั้งแต่เริ่มต้นเลย ตั้งแต่สมัยโบราณ เราได้บอกเจ้าถึงสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น เราบอกว่า ‘เมื่อเราวางแผน มันก็จะเกิดขึ้นตามนั้น เราจะทำทุกสิ่งที่เราอยากจะทำ’ |
|
ยอห์น ๖:๓๙ |
นี่คือสิ่งที่พระบิดาผู้ที่ส่งเรามาอยากให้เราทำ คือให้เก็บรักษาทุกคนที่พระองค์ยกให้กับเราไว้ไม่ให้สูญหายไปสักคนเดียว และทำให้เขาฟื้นขึ้นมามีชีวิตในวันสุดท้าย |
|
ยูดา ๑:๗ |
จำได้ไหม เรื่องของเมืองโสโดม เมืองโกโมราห์ และเมืองอื่นๆรอบๆสองเมืองนั้น ที่เต็มไปด้วยพวกทำผิดบาปทางเพศ พวกวิปริตผิดเพศ พระองค์จึงลงโทษพวกเขาด้วยไฟที่ไม่มีวันดับ เพื่อเอาไว้เป็นตัวอย่างให้ดู |
|
ลูกา ๑๘:๘ |
เราจะบอกให้รู้ว่า พระองค์จะรีบให้ความยุติธรรมกับเขา ว่าแต่เมื่อบุตรมนุษย์มาถึง พระองค์จะเจอคนที่มีความเชื่อหลงเหลืออยู่ในโลกนี้หรือเปล่า” |
|
วิวรณ์ ๒๑:๘ |
แต่คนที่ขี้ขลาดตาขาว คนที่ทิ้งความเชื่อไป คนที่ทำสิ่งเลวร้าย คนที่ฆ่าคน คนที่ทำผิดทางเพศ คนที่ใช้เวทมนตร์คาถา คนที่กราบไหว้รูปปั้น และคนที่โกหกนั้นจะอยู่ในบึงไฟกำมะถันที่ลุกโชน นั่นจะเป็นความตายครั้งที่สอง” |
|
โรม 10:13 |
เพราะ “ทุกคนที่ร้องเรียกให้องค์เจ้าชีวิตช่วย ก็จะรอด” |
|
ฮีบรู ๑:๑-๒ |
[๑] ในสมัยก่อน พระเจ้าได้พูดกับบรรพบุรุษของเราผ่านทางพวกผู้พูดแทนพระองค์หลายครั้ง ด้วยวิธีการที่หลากหลาย[๒] แต่ในยุคสุดท้ายนี้ พระองค์พูดกับเราผ่านทางพระบุตร พระบุตรนั้นเป็นผู้ที่พระองค์แต่งตั้งให้รับทุกสิ่งทุกอย่างเป็นมรดก พระเจ้าสร้างจักรวาลโดยผ่านทางพระบุตรด้วย |
|
๒ เปโตร ๓:๓-๔ |
[๓] ก่อนอื่นอยากจะให้คุณรู้ว่า ในช่วงสุดท้ายของโลกจะมีคนทำตามกิเลสตัณหาของตัวเอง และหัวเราะเยาะเย้ยพวกคุณ[๔] พวกเขาจะถามคุณว่า “พระคริสต์สัญญาว่าจะเสด็จกลับมา แล้วไหนล่ะ พ่อแม่ก็ตายไปแล้ว แต่ทุกสิ่งทุกอย่างก็ยังเหมือนกับวันแรกที่โลกนี้ถูกสร้างขึ้นมา” |
|
๑ ทิโมธี ๔:๑-๓ |
[๑] พระวิญญาณพูดไว้ชัดเจนว่า ต่อไปในอนาคตจะมีบางคนทิ้งความเชื่อ แล้วหันไปเชื่อถือวิญญาณที่หลอกลวง รวมทั้งคำสอนต่างๆของพวกมารทั้งหลาย[๒] และคำหลอกลวงของพวกหน้าซื่อใจคด ใจของพวกเขาชินชากับความผิดเสียแล้ว เหมือนถูกเหล็กร้อนนาบจนตายด้าน[๓] พวกเขาสั่งว่าห้ามแต่งงานและห้ามกินอาหารบางชนิด อันที่จริงพระเจ้าได้สร้างอาหารขึ้นมาให้คนที่มีความเชื่อ และคนที่รู้จักความจริง กินกันด้วยความขอบคุณ |
|
วิวรณ์ ๑๓:๑๖-๑๘ |
[๑๖] สัตว์ตัวที่สองนี้บังคับทุกๆคน ทั้งผู้ยิ่งใหญ่และผู้ต่ำต้อย ทั้งคนรวยและคนจน ทั้งไทและทาส ให้ต้องทำเครื่องหมายไว้ที่มือขวาหรือหน้าผาก[๑๗] เพื่อไม่ให้ผู้ใดทำการซื้อขายได้ นอกจากจะมีเครื่องหมายที่เป็นชื่อของสัตว์ร้ายหรือหมายเลขแทนชื่อของสัตว์ร้ายนั้นอยู่[๑๘] ใครที่ฉลาด ก็จะสามารถบอกได้ว่าความหมายของตัวเลขของสัตว์ร้ายนั้นหมายความว่าอะไร เพราะตัวเลขนั้นแทนชื่อของคนๆหนึ่ง ตัวเลขของเขาคือหกร้อยหกสิบหก |
|
๒ ทิโมธี ๓:๑-๕ |
[๑] รู้เอาไว้เถอะว่า ในช่วงเวลาสุดท้ายจะเป็นเวลาที่ลำบากมาก[๒] จะมีแต่คนเห็นแก่ตัว เห็นแก่เงิน โอ้อวด จองหอง ชอบด่าว่าคนอื่น ไม่เชื่อฟังพ่อแม่ ไม่รู้จักบุญคุณ ไม่มีศาสนาที่แท้จริง[๓] ไม่มีความรัก ไม่ให้อภัย ใส่ร้ายป้ายสี ไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจ โหดร้ายทารุณ ไม่รักดี[๔] คิดคดทรยศ ใจร้อนวู่วาม หัวสูง และรักสนุกแทนที่จะรักพระเจ้า[๕] พวกเขานับถือศาสนาที่แท้จริงแต่เพียงเปลือกนอก แต่ไม่ยอมให้ฤทธิ์อำนาจของศาสนาที่แท้จริงนั้นเปลี่ยนชีวิตเขา คุณจะต้องอยู่ให้ห่างจากคนพวกนี้ |
|
วิวรณ์ ๑:๑-๗ |
[๑] นี่คือสิ่งที่พระเจ้ามอบให้พระเยซูคริสต์นำมาเปิดเผยเพื่อพระองค์จะได้นำไปแสดงให้พวกทาสของพระองค์รู้ถึงสิ่งต่างๆที่จะต้องเกิดขึ้นในเร็วๆนี้ พระเยซูคริสต์ได้ส่งทูตสวรรค์ไปบอกเรื่องราวต่างๆนี้กับยอห์นทาสของพระองค์[๒] ยอห์นได้เป็นพยานถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาเห็น เขาได้รายงานถ้อยคำที่มาจากพระเจ้า และเหตุการณ์ที่พระเยซูเปิดเผยให้รู้[๓] คนที่ได้อ่านถ้อยคำที่มาจากพระเจ้านี้ให้หมู่ประชุมฟัง ถือว่าได้รับเกียรติจริงๆ คนทั้งหลายที่ได้ฟังและทำตามสิ่งที่ได้เขียนไว้นั้น ก็ได้รับเกียรติเช่นกัน เรื่องที่ได้เขียนไว้ในหนังสือเล่มนี้จะเกิดขึ้นเร็วๆนี้[๔] จากยอห์น ถึงหมู่ประชุมทั้งเจ็ดที่ตั้งอยู่ในแคว้นเอเชีย ขอให้ได้รับความเมตตากรุณาและสันติสุขจากพระเจ้าผู้ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ในอดีตและกำลังจะมาในอนาคต และจากพระวิญญาณทั้งเจ็ดที่อยู่ต่อหน้าบัลลังก์ของพระองค์[๕] และจากพระเยซูผู้เป็นพยานที่ซื่อสัตย์ เป็นคนแรกที่ฟื้นขึ้นจากความตายและเป็นผู้มีอำนาจเหนือกษัตริย์ทั้งหลายในโลกนี้ พระเยซูคริสต์รักเรา และได้ปลดปล่อยให้เราเป็นอิสระจากบาปของเราด้วยเลือดของพระองค์[๖] พระองค์ทำให้เราเป็นพวกกษัตริย์และเป็นพวกนักบวชที่รับใช้พระเจ้าพระบิดาของพระองค์ ขอให้พระเยซูคริสต์ได้รับเกียรติและมีฤทธิ์อำนาจตลอดกาล อาเมน[๗] ดูนั่นสิ พระเยซูกำลังมาพร้อมกับกลุ่มเมฆนั้น ทุกคนจะเห็นพระองค์ แม้แต่คนที่แทงพระองค์ ทุกเผ่าพันธุ์ในโลกจะโศกเศร้าเพราะพระองค์ และจะเป็นตามนั้นอย่างแน่นอน อาเมน |
|
มัทธิว ๒๔:๓๖-๔๔ |
[๓๖] แต่ไม่มีใครรู้วันเวลานั้นเลย แม้แต่ทูตสวรรค์หรือพระบุตรก็ไม่รู้ มีแต่พระบิดาเท่านั้นที่รู้[๓๗] เมื่อบุตรมนุษย์จะมา ก็จะเหมือนกับในสมัยของโนอาห์[๓๘] ในสมัยนั้นก่อนที่น้ำจะท่วม ผู้คนได้กินและดื่มกัน แต่งงานกัน และยกลูกให้แต่งงานกัน จนกระทั่งวันที่โนอาห์เข้าไปในเรือ[๓๙] คนพวกนี้ไม่รู้ตัวเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น จนกระทั่งน้ำท่วมและพัดพาคนพวกนี้ไปหมด เมื่อบุตรมนุษย์เสด็จมาก็จะเป็นอย่างนั้นเหมือนกัน[๔๐] ในเวลานั้น เมื่อชายสองคนกำลังทำไร่อยู่ คนหนึ่งจะถูกรับไป อีกคนหนึ่งจะถูกทิ้งไว้[๔๑] เมื่อผู้หญิงสองคนกำลังโม่แป้งอยู่ คนหนึ่งจะถูกรับไป และอีกคนหนึ่งจะถูกทิ้งไว้[๔๒] พวกคุณ ระวังตัวไว้ให้ดี เพราะไม่รู้ว่าองค์เจ้าชีวิตจะมาเมื่อไหร่[๔๓] อย่าลืมว่า ถ้าเจ้าของบ้านรู้ตัวว่า ขโมยจะขึ้นบ้านตอนไหนในเวลากลางคืน เขาก็จะคอยระวัง ไม่ปล่อยให้ขโมยงัดเข้ามาในบ้านแน่[๔๔] พวกคุณก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อมด้วย เพราะบุตรมนุษย์ จะมาในเวลาที่พวกคุณคาดไม่ถึง |
|
มัทธิว ๒๔:๑-๑๔ |
[๑] เมื่อพระเยซูกำลังเดินออกจากวิหาร พวกศิษย์มาชี้ให้พระองค์ดูตึกต่างๆของวิหาร[๒] พระองค์จึงพูดกับพวกเขาว่า “เห็นตึกพวกนี้ไหม เราจะบอกให้รู้ว่า ตึกพวกนี้จะถูกทำลายจนหมดสิ้น ไม่เหลือแม้แต่ซากหินเรียงซ้อนทับกันอีกเลย”[๓] ในขณะที่พระเยซูกำลังนั่งอยู่บนภูเขามะกอกเทศ พวกศิษย์มาหาพระองค์เป็นการส่วนตัว และพูดว่า “ช่วยบอกหน่อยครับว่า สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ แล้ววันที่อาจารย์จะกลับมาและวันสิ้นยุคนั้น จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ แล้วจะมีอะไรบอกเหตุให้รู้ก่อนไหมครับว่ามันจะเกิดขึ้นแล้ว”[๔] พระเยซูตอบว่า “ระวังอย่าให้ใครหลอกได้ล่ะ[๕] เพราะจะมีหลายคนมาแอบอ้างชื่อของเรา เขาจะบอกว่าตัวเขาเป็นพระคริสต์ และทำให้หลายคนหลงเชื่อ[๖] เมื่อคุณได้ยินเสียงสงครามเกิดขึ้นใกล้ๆและได้ข่าวว่ามีสงครามที่อื่น ไม่ต้องตกใจ เพราะมันจะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน แต่นั่นยังไม่ใช่วันสุดท้ายของโลก[๗] ชนชาติหนึ่งจะลุกฮือขึ้นต่อสู้กับอีกชนชาติหนึ่ง อาณาจักรนี้จะลุกฮือขึ้นต่อสู้กับอาณาจักรโน้น จะเกิดการกันดารอาหาร และเกิดแผ่นดินไหวหลายแห่ง[๘] แต่นี่เป็นแค่จุดเริ่มต้นของปัญหาเหมือนเจ็บท้องเตือนก่อนคลอดลูก[๙] พวกคุณจะถูกจับไปทรมานและถูกฆ่า คนทุกประเทศจะเกลียดคุณ เพราะพวกคุณเป็นศิษย์ของเรา[๑๐] เมื่อถึงเวลานั้น จะมีหลายคนทิ้งความเชื่อไป มีการหักหลังกันและเกลียดชังกัน[๑๑] จะมีคนมากมายมาปลอมตัวเป็นผู้พูดแทนพระเจ้า และมาหลอกลวงคนจำนวนมาก[๑๒] ความชั่วที่แพร่ไป จะทำให้ความรักของหลายคนมอดไป[๑๓] แต่คนที่ทนได้จนถึงที่สุดจะได้รับความรอด[๑๔] ข่าวดีเรื่องอาณาจักรของพระเจ้าจะถูกป่าวประกาศไปทั่วโลก เพื่อทุกชาติจะได้ยินเกี่ยวกับข่าวดีนี้ แล้วในที่สุดก็จะถึงวันสิ้นยุค |
|
สดุดี ๙๑:๑-๑๖ |
[๑] พวกเจ้าที่พักอยู่ในที่กำบังแห่งพระเจ้าผู้ใหญ่ยิ่งสูงสุด พวกเจ้าที่อาศัยอยู่ใต้ร่มเงาของพระเจ้าผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น[๒] ให้พูดกับพระยาห์เวห์ว่า “พระองค์คือที่ลี้ภัยและป้อมปราการของข้าพเจ้า เป็นพระเจ้าของข้าพเจ้าผู้ที่ข้าพเจ้าไว้วางใจ”[๓] พระองค์จะช่วยท่านให้พ้นจากตาข่ายของนักล่านก พระองค์จะช่วยท่านให้พ้นจากโรคร้ายแรง[๔] พระองค์จะกางปีกออกเหนือท่านและให้ท่านหลบภัยอยู่ใต้ปีกของพระองค์นั้น ความสัตย์ซื่อของพระองค์จะเป็นโล่และกำแพงป้องกันภัยให้กับท่าน[๕] ท่านจะไม่ต้องกลัวการโจมตีในตอนกลางคืน หรือการจู่โจมด้วยลูกธนูในตอนกลางวัน[๖] ท่านจะไม่ต้องกลัวโรคที่ย่องเข้ามาตอนกลางคืน หรือความเจ็บป่วยที่เข้ามาปล้นในตอนกลางวัน[๗] คนเป็นพันอาจจะล้มตายอยู่ข้างท่าน คนเป็นหมื่นอาจจะล้มตายอยู่ทางขวาของท่าน แต่จะไม่มีอันตรายย่างกรายเข้ามาหาท่านเลย[๘] ใช่แล้ว ท่านจะเห็นสิ่งเหล่านี้กับตาท่านเอง ท่านจะได้เห็นคนชั่วร้ายได้รับผลตอบแทนอย่างสาสม[๙] เพราะท่านเอาพระยาห์เวห์เป็นที่ลี้ภัยของท่าน ท่านให้พระเจ้าผู้ใหญ่ยิ่งสูงสุดเป็นที่ปลอดภัยของท่าน[๑๐] ดังนั้น จึงไม่มีความหายนะใดๆแตะต้องท่าน ไม่มีโรคระบาดใดๆเข้าไปในเต็นท์ของท่านได้[๑๑] เพราะไม่ว่าท่านจะไปที่ไหนก็ตาม พระเจ้าจะมอบหมายให้พวกทูตสวรรค์คอยคุ้มครองท่าน[๑๒] ทูตสวรรค์เหล่านั้นจะเอามือยกท่านขึ้น เพื่อเท้าท่านจะได้ไม่ต้องกระแทกก้อนหิน[๑๓] ท่านจะเดินบนพวกสิงโตและงูเห่า และเหยียบย่ำพวกสิงโตดุร้ายและพวกงูพิษได้[๑๔] พระยาห์เวห์พูดว่า “เขารักเรา ดังนั้น เราจะช่วยเหลือเขา เราจะวางเขาไว้บนที่สูงที่ปลอดภัยเพราะเขารู้จักเราจริงๆ[๑๕] เมื่อเขาร้องขอความช่วยเหลือจากเรา เราจะตอบเขา เราอยู่กับเขาในยามที่เขาทุกข์ยาก เราช่วยให้เขาพ้นภัยและทำให้เขามีเกียรติ[๑๖] เราจะทำให้เขาเต็มอิ่มด้วยชีวิตที่ยืนยาว แล้วให้เขาเห็นว่าเราสามารถช่วยให้เขารอดได้” |
|
๒ ทิโมธี ๓:๑-๑๗ |
[๑] รู้เอาไว้เถอะว่า ในช่วงเวลาสุดท้ายจะเป็นเวลาที่ลำบากมาก[๒] จะมีแต่คนเห็นแก่ตัว เห็นแก่เงิน โอ้อวด จองหอง ชอบด่าว่าคนอื่น ไม่เชื่อฟังพ่อแม่ ไม่รู้จักบุญคุณ ไม่มีศาสนาที่แท้จริง[๓] ไม่มีความรัก ไม่ให้อภัย ใส่ร้ายป้ายสี ไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจ โหดร้ายทารุณ ไม่รักดี[๔] คิดคดทรยศ ใจร้อนวู่วาม หัวสูง และรักสนุกแทนที่จะรักพระเจ้า[๕] พวกเขานับถือศาสนาที่แท้จริงแต่เพียงเปลือกนอก แต่ไม่ยอมให้ฤทธิ์อำนาจของศาสนาที่แท้จริงนั้นเปลี่ยนชีวิตเขา คุณจะต้องอยู่ให้ห่างจากคนพวกนี้[๖] มีบางคนย่องเข้าไปตามบ้านต่างๆ ไปจูงจมูกพวกผู้หญิงหัวอ่อนและบาปหนา ที่ถูกกิเลสตัณหาต่างๆลากไป[๗] พวกผู้หญิงเหล่านี้ชอบที่จะเรียนรู้เรื่องใหม่ๆอยู่เรื่อย แต่ก็ไม่เคยเข้าใจอย่างแตกฉานในเรื่องของความจริงเลย[๘] ยันเนสและยัมเบรส์ต่อต้านโมเสสอย่างไร พวกนี้ก็ต่อต้านความจริงอย่างนั้น คนพวกนี้มีจิตใจที่เสื่อมทราม และความเชื่อของเขาก็จอมปลอม[๙] พวกนี้ไปได้ไม่กี่น้ำหรอก เดี๋ยวความโง่ของพวกเขาก็จะโผล่ออกมาให้ทุกคนเห็น เหมือนกับที่เกิดขึ้นกับยันเนสและยัมเบรส์[๑๐] อย่างไรก็ตาม ทิโมธี คุณก็รู้จักผมดีอยู่แล้วในทุกด้าน คุณรู้ว่าผมสอนอะไร ใช้ชีวิตอย่างไร มีเป้าหมายอะไรในชีวิต มีความเชื่อ ความอดทน ความรักและความมุ่งมั่นอย่างไร[๑๑] และคุณก็รู้ว่าผมถูกข่มเหงและทนทุกข์ทรมานขนาดไหน เหมือนกับที่ได้เกิดขึ้นกับผมในเมืองอันทิโอก เมืองอิโคนียูม และเมืองลิสตรา แต่องค์เจ้าชีวิตได้ช่วยผมให้รอดพ้นจากสิ่งเหล่านั้นมาโดยตลอด[๑๒] ความจริงแล้ว ทุกคนที่อยากจะมีชีวิตที่อุทิศให้กับพระเจ้าในพระเยซูคริสต์นั้นจะต้องถูกข่มเหง[๑๓] แต่คนชั่วและนักต้มตุ๋นจะเลวร้ายยิ่งขึ้น มีทั้งโกงเขาและถูกเขาโกงด้วย[๑๔] ส่วนคุณก็ให้เชื่อในสิ่งที่คุณได้เรียนรู้และมั่นใจแล้วนั้นต่อไป เพราะคุณก็รู้จักคนพวกนั้นที่สอนคุณอยู่แล้วว่าพวกเขาเป็นใคร[๑๕] แล้วคุณก็รู้จักพระคัมภีร์อันศักดิ์สิทธิ์นี้มาตั้งแต่เด็กแล้ว พระคัมภีร์นี้จะทำให้คุณฉลาด และนำคุณไปถึงความรอด เมื่อไว้วางใจในพระเยซูคริสต์[๑๖] ทุกๆข้อในพระคัมภีร์ พระเจ้าเป็นผู้ดลใจให้เขียนขึ้นมา เพื่อเป็นประโยชน์ในการสั่งสอนความจริง ชี้ให้คนเห็นถึงความบาปในชีวิต ช่วยปรับปรุงแก้ไขให้คนดีขึ้น และฝึกคนให้ทำตามใจพระเจ้า[๑๗] เพื่อเตรียมคนของพระเจ้าให้พร้อมที่จะทำดีทุกอย่าง |
|
กิจการของอัครทูต ๒:๑-๑๗ |
[๑] เมื่อถึงวันเพ็นเทคอสต์ พวกศิษย์ของพระเยซูก็มารวมตัวกันในที่แห่งหนึ่ง[๒] จู่ๆก็มีเสียงจากท้องฟ้าคล้ายกับเสียงพายุพัดอย่างแรง ดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วบ้านที่พวกเขากำลังนั่งกันอยู่[๓] จากนั้นพวกเขาก็เห็นบางอย่างคล้ายเปลวไฟที่มีรูปร่างเหมือนลิ้นได้กระจายออกไปอยู่เหนือพวกเขาแต่ละคน[๔] แล้วพระวิญญาณบริสุทธิ์ก็ได้เข้าไปอยู่ในตัวพวกเขาอย่างบริบูรณ์ แล้วพวกเขาทุกคนก็เริ่มพูดภาษาต่างๆตามแต่ที่พระวิญญาณบริสุทธิ์จะให้เขาพูดได้[๕] ชาวยิวที่นับถือพระเจ้าจากชาติต่างๆทั่วโลก มาอยู่ในเมืองเยรูซาเล็มเวลานั้น[๖] เมื่อได้ยินเสียงอื้ออึง ก็มามุงดูกัน และต่างก็รู้สึกงุนงงสงสัยที่พวกเขาต่างก็ได้ยินศิษย์ของพระเยซูพวกนี้พูดภาษาของพวกเขา[๗] พวกเขาทึ่งมากถึงกับพูดว่า “คนพวกนี้เป็นชาวกาลิลีทั้งนั้นเลยไม่ใช่หรือ[๘] แล้วทำไมพวกเราถึงได้ยินเขาพูดภาษาบ้านเกิดเมืองนอนของพวกเราล่ะ[๙] ซึ่งมีทั้งมาจาก ปารเธีย มีเดีย เอลาม เมโสโปเตเมีย ยูเดีย คัปปาโดเซีย ปอนทัส เอเชีย[๑๐] ฟรีเจียและปัมฟีเลีย อียิปต์และบางส่วนของลิเบียใกล้กับเมืองไซรีน แขกที่มาเยือนจากกรุงโรม[๑๑] (มีทั้งยิวโดยกำเนิด กับคนที่เปลี่ยนมาถือแบบยิว) เกาะครีต และอาระเบีย แล้วเราทั้งหมดต่างก็ได้ยินคนพวกนี้พูดถึงสิ่งยอดเยี่ยมต่างๆที่พระเจ้าได้ทำเป็นภาษาบ้านเกิดเมืองนอนของพวกเราเอง”[๑๒] ผู้คนทั้งหมดรู้สึกสับสนอลหม่าน ถามไถ่กันว่า “นี่มันอะไรกัน”[๑๓] บางคนหัวเราะเยาะศิษย์ของพระเยซู โดยพูดว่า “พวกนี้เมาเหล้าองุ่น”[๑๔] แล้วเปโตรก็ยืนขึ้นพร้อมกับศิษย์เอกอีกสิบเอ็ดคน เขาตะเบ็งเสียงดังต่อหน้าคนพวกนั้นว่า “เพื่อนๆชาวยิวและทุกคนที่อาศัยอยู่ในเมืองเยรูซาเล็ม ตั้งใจฟังให้ดีในเรื่องที่ผมจะเล่านี้[๑๕] คนพวกนี้ไม่ได้เมาอย่างที่พวกคุณคิดหรอกนะ ตอนนี้เพิ่งจะเก้าโมงเช้าเอง[๑๖] แต่สิ่งที่คุณเห็นนี้ เป็นสิ่งที่โยเอลผู้พูดแทนพระเจ้า ได้พูดไว้ว่า[๑๗] ‘พระเจ้าพูดว่า ในช่วงสุดท้ายนั้น เราจะเทพระวิญญาณของเราลงบนมนุษย์ทุกคน ทั้งบุตรชายและบุตรสาวของพวกเจ้าจะพูดแทนเรา คนหนุ่มจะเห็นภาพนิมิต คนแก่จะมีความฝันพิเศษ |
|
Thai Bible (ERV) 2001 |
Copyright © 2001 by Bible League International |