๑ เปโตร ๒:๑๗ |
ให้เกียรติกับทุกๆคน ให้รักพี่น้องในพระคริสต์ ให้เกรงกลัวพระเจ้า และให้เกียรติกับกษัตริย์ด้วย |
|
โรม ๑๒:๑๐ |
ให้รักกันฉันพี่น้อง ให้เกียรติกับคนอื่นมากกว่าตัวเอง |
|
๑ ทิโมธี ๕:๑๗ |
ผู้นำอาวุโสที่เป็นผู้นำที่ดีนั้น สมควรจะได้รับเกียรติเป็นสองเท่า โดยเฉพาะคนที่ทุ่มเทให้กับการเทศนาและสั่งสอน |
|
ยอห์น ๕:๒๓ |
เพื่อทุกคนจะได้ให้เกียรติพระบุตรนั้นเหมือนกับที่พวกเขาให้เกียรติพระบิดา คนที่ไม่ให้เกียรติพระบุตรก็เท่ากับไม่ให้เกียรติพระบิดาผู้ส่งพระบุตรมาด้วย |
|
ยอห์น ๔:๔๔ |
(พระเยซูเคยพูดว่า ผู้พูดแทนพระเจ้าจะไม่ได้รับเกียรติในบ้านเมืองของตน) |
|
๑ ทิโมธี ๑:๑๗ |
ขอให้พระองค์ผู้เป็นกษัตริย์ของคนทุกยุคทุกสมัย ผู้ไม่มีวันตาย ผู้ไม่มีใครมองเห็นได้ และผู้เป็นพระเจ้าแต่เพียงองค์เดียว ได้รับเกียรติและสง่าราศี อยู่เสมอและตลอดไป อาเมน |
|
โรม 13:1-7 |
[1] ให้ทุกคนยอมเชื่อฟังผู้มีอำนาจของรัฐบาล เพราะอำนาจทุกอย่างมาจากพระเจ้า และพระเจ้าเองเป็นผู้ที่แต่งตั้งผู้มีอำนาจเหล่านั้น[2] ถ้าอย่างนั้น คนที่ขัดขืนต่ออำนาจนั้น ก็เท่ากับขัดขืนคำสั่งของพระเจ้า และคนที่ขัดขืนคำสั่งของพระเจ้า ก็จะต้องถูกลงโทษ[3] คนที่ทำดีไม่กลัวผู้มีอำนาจพวกนั้นหรอก มีแต่คนที่ทำชั่วเท่านั้นที่กลัว ถ้าคุณไม่อยากกลัวผู้มีอำนาจพวกนั้นก็ให้ทำดี แล้วพวกเขาจะได้ชมเชยพวกคุณ[4] เพราะพวกเขาเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้าที่มาทำงานช่วยพวกคุณ แต่ถ้าคุณทำเรื่องชั่วๆก็ให้กลัวไว้ เพราะเขาไม่ได้ถือดาบเอาไว้ขู่เฉยๆ เขาเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้า เป็นผู้แก้แค้นแทนพระเจ้า เพื่อลงโทษคนที่ทำชั่ว[5] ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องเชื่อฟังรัฐบาล ไม่ใช่เพราะกลัวถูกลงโทษเท่านั้น แต่เพื่อใจจะไม่ฟ้องตัวเองว่าผิด[6] นี่เป็นเหตุที่คุณต้องเสียภาษี เพราะผู้มีอำนาจพวกนี้เป็นคนรับใช้ของพระเจ้า ที่ดูแลเรื่องเหล่านี้เสมอ[7] คุณเป็นหนี้อะไรกับใคร ก็ให้จ่ายคืนเขาไป เป็นหนี้ส่วยสาอากร ก็ให้จ่ายส่วยสาอากร เป็นหนี้ภาษี ก็ให้จ่ายภาษี คุณต้องยำเกรงใคร ก็ให้ยำเกรงคนนั้น คุณต้องให้เกียรติใคร ก็ให้เกียรติคนนั้น |
|
โรม ๒:๗ |
ส่วนคนที่ทำความดีอย่างไม่ย่อท้อเพื่อแสวงหาศักดิ์ศรี เกียรติยศ และชีวิตที่ไม่มีวันตาย พระเจ้าจะให้เขามีชีวิตกับพระองค์ตลอดไป |
|
ฮีบรู ๑๓:๔ |
ขอให้ทุกคนให้เกียรติกับชีวิตสมรส และขอให้เตียงสมรสนั้นบริสุทธิ์ เพราะพระเจ้าจะลงโทษคนที่มีชู้และทำผิดทางเพศ |
|
ยอห์น ๑๒:๒๖ |
ถ้าใครรับใช้เรา เขาก็จะต้องติดตามเราไปไม่ว่าจะเป็นที่ไหนก็ตาม คนรับใช้ของเราก็จะต้องอยู่ที่นั่นด้วย ถ้าใครรับใช้เรา พระบิดาก็จะให้เกียรติคนนั้น” |
|
เอเฟซัส ๖:๑-๓ |
[๑] พวกคุณที่เป็นลูกๆ ต้องเชื่อฟังพ่อแม่ของตน ในฐานะที่คุณมีส่วนในองค์เจ้าชีวิต เพราะนั่นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง[๒] กฎที่ว่า “ให้เกียรติพ่อแม่ของตน” นี่เป็นกฎข้อแรกที่มีคำสัญญาพ่วงมาด้วย[๓] “คือคุณจะเจริญรุ่งเรืองในทุกสิ่ง และอายุยืนยาวในแผ่นดินนี้” |
|
เอเฟซัส ๖:๒ |
กฎที่ว่า “ให้เกียรติพ่อแม่ของตน” นี่เป็นกฎข้อแรกที่มีคำสัญญาพ่วงมาด้วย |
|
ยอห์น ๕:๒๒-๒๓ |
[๒๒] พระบิดาไม่ได้ตัดสินลงโทษใคร แต่ได้มอบสิทธิอำนาจทั้งหมดในการตัดสินลงโทษให้กับพระบุตร[๒๓] เพื่อทุกคนจะได้ให้เกียรติพระบุตรนั้นเหมือนกับที่พวกเขาให้เกียรติพระบิดา คนที่ไม่ให้เกียรติพระบุตรก็เท่ากับไม่ให้เกียรติพระบิดาผู้ส่งพระบุตรมาด้วย |
|
มัทธิว ๑๕:๔ |
พระเจ้าบอกว่า ‘ให้เคารพนับถือพ่อและแม่’ และ ‘ใครสาปแช่งพ่อแม่จะมีโทษถึงตาย’ |
|
๑ เธสะโลนิกา ๔:๔ |
ให้แต่ละคนหาภรรยาของตัวเองมาในทางที่บริสุทธิ์และมีเกียรติ |
|
๒ เปโตร ๑:๑๗ |
เราเห็นพระองค์ได้รับเกียรติและความยิ่งใหญ่จากพระเจ้าพระบิดา ตอนที่มีเสียงพิเศษจากผู้ยิ่งใหญ่สูงสุด มาถึงพระเยซูว่า “นี่เป็นลูกที่เรารัก เราภูมิใจเขามาก” |
|
วิวรณ์ ๕:๑๒-๑๓ |
[๑๒] พูดด้วยเสียงอันดังว่า “ลูกแกะที่ถูกฆ่า คือผู้ที่เหมาะสมจะได้รับฤทธิ์อำนาจ ความมั่งคั่ง สติปัญญา พละกำลัง เกียรติยศ ความรุ่งโรจน์ และคำสรรเสริญ”[๑๓] จากนั้นผมก็ได้ยินเสียงพวกสิ่งมีชีวิตทั้งปวงในสวรรค์ บนโลก ใต้แผ่นดินโลก และในทะเล ใช่แล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในจักรวาลนี้ พูดว่า “ขอคำสรรเสริญ เกียรติยศ ความรุ่งโรจน์ และฤทธิ์อำนาจ จงมีแด่พระองค์ผู้ที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ และแด่ลูกแกะตลอดกาล” |
|
วิวรณ์ ๗:๑๒ |
พวกเขาพูดว่า “อาเมน คำสรรเสริญ ความรุ่งโรจน์ สติปัญญา คำขอบคุณ เกียรติยศ ฤทธิ์อำนาจและพละกำลัง จงเป็นของพระเจ้าของเราตลอดไป อาเมน” |
|
๑ โครินธ์ ๖:๒๐ |
เพราะพระเจ้าซื้อพวกคุณมาด้วยราคาแพง ดังนั้นขอให้ใช้ร่างกายของคุณให้เกียรติกับพระเจ้า |
|
เอเฟซัส ๖:๒-๓ |
[๒] กฎที่ว่า “ให้เกียรติพ่อแม่ของตน” นี่เป็นกฎข้อแรกที่มีคำสัญญาพ่วงมาด้วย[๓] “คือคุณจะเจริญรุ่งเรืองในทุกสิ่ง และอายุยืนยาวในแผ่นดินนี้” |
|
วิวรณ์ ๔:๙-๑๑ |
[๙] เมื่อสิ่งมีชีวิตทั้งสี่กล่าวคำสรรเสริญถวายพระเกียรติ และขอบคุณพระองค์ผู้ที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ ผู้ซึ่งจะมีชีวิตอยู่ตลอดไป[๑๐] ผู้อาวุโสทั้งยี่สิบสี่องค์ ก็ก้มลงกราบนมัสการพระองค์ผู้ที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ และผู้มีชีวิตอยู่ตลอดไป พวกเขาถอดมงกุฎของตัวเองวางลงตรงหน้าบัลลังก์ของพระองค์ แล้วพูดว่า[๑๑] “พระเจ้าองค์เจ้าชีวิตของพวกเราทั้งหลาย พระองค์สมควรที่จะได้รับคำสรรเสริญ ได้รับเกียรติและฤทธิ์อำนาจ เพราะพระองค์เป็นผู้สร้างทุกสิ่งทุกอย่าง และทุกสิ่งทุกอย่างได้ถูกสร้างขึ้น และมีขึ้นมาตามใจพระองค์” |
|
มาระโก ๗:๑-๑๓ |
[๑] พวกฟาริสี กับพวกครูผู้สอนกฎปฏิบัติบางคนที่มาจากเมืองเยรูซาเล็ม พากันมาหาพระเยซู[๒] พวกเขาเห็นศิษย์บางคนของพระเยซู กินอาหารโดยไม่ได้ล้างมือ[๓] (พวกฟาริสี และคนยิวทุกคนจะไม่กินอาหารจนกว่าจะได้ล้างมือตามประเพณีที่บรรพบุรุษทำมา[๔] เมื่อกลับมาจากตลาดพวกเขาก็ต้องทำพิธีจุ่มตัวเองก่อนที่จะกินข้าว นอกจากนี้ ยังรักษาประเพณีอื่นๆอีกมากมายเช่น การล้างถ้วย เหยือก หม้อทองสัมฤทธิ์ และเก้าอี้เอนสำหรับกินข้าว)[๕] ดังนั้นพวกฟาริสีและพวกครูสอนกฎปฏิบัติพวกนี้ถามพระเยซูว่า “ทำไมศิษย์ของคุณถึงไม่ทำตามประเพณีที่สืบทอดกันมาจากบรรพบุรุษ ทำไมพวกเขาถึงไม่ล้างมือก่อนกินอาหาร”[๖] พระองค์จึงตอบว่า “อิสยาห์ผู้พูดแทนพระเจ้า พูดไว้ถูกต้องเลยเกี่ยวกับพวกหน้าซื่อใจคดอย่างพวกคุณที่ว่า ‘คนพวกนี้นับถือเราแต่ปากเท่านั้น แต่ใจของพวกเขาห่างไกลจากเรามาก[๗] จึงไม่มีประโยชน์ที่เขาจะบูชาเรา เพราะสิ่งที่เขาสอนกันนั้นเป็นแค่กฎที่มนุษย์ตั้งขึ้น’[๘] พวกคุณละเลยคำสั่งของพระเจ้า เพื่อจะได้ไปทำตามประเพณีที่มนุษย์สอนต่อๆกันมา”[๙] แล้วพระเยซูพูดอีกว่า “พวกคุณนี่เหลี่ยมจัดนะ เข้าใจหลีกเลี่ยงคำสั่งของพระเจ้า เพื่อจะได้ไปทำตามประเพณีที่สืบทอดกันมา[๑๐] อย่างเช่น โมเสสสอนว่า ‘ให้เคารพนับถือพ่อแม่ของตน’ และ ‘คนที่สาปแช่งพ่อแม่ต้องตาย’[๑๑] แต่พวกคุณกลับสอนว่าไม่ผิดที่จะบอกพ่อแม่ว่า ‘สิ่งที่ลูกจะเอามาช่วยพ่อแม่ได้นั้น ลูกได้ยกให้กับพระเจ้าไปหมดแล้ว’[๑๒] ทำอย่างนี้เท่ากับว่าพวกคุณสอนเขาไม่ให้ช่วยเหลืออะไรพ่อแม่เลย[๑๓] แบบนี้พวกคุณก็เลยยกเลิกพระคำของพระเจ้า แต่ไปทำตามประเพณีที่สืบทอดกันมา และพวกคุณยังทำอย่างนี้กับอีกหลายๆเรื่องด้วย” |
|
มัทธิว ๑๕:๑-๙ |
[๑] พวกฟาริสีและครูสอนกฎปฏิบัติได้เดินทางจากเมืองเยรูซาเล็มมาหาพระองค์ และถามพระองค์ว่า[๒] “ทำไมศิษย์ของคุณถึงไม่ทำตามประเพณีที่สืบทอดกันมาจากบรรพบุรุษ ทำไมพวกเขาถึงไม่ล้างมือก่อนกินอาหาร”[๓] พระเยซูตอบว่า “แล้วทำไมพวกคุณถึงขัดคำสั่งพระเจ้าเพราะเห็นแก่ประเพณีของพวกคุณล่ะ[๔] พระเจ้าบอกว่า ‘ให้เคารพนับถือพ่อและแม่’ และ ‘ใครสาปแช่งพ่อแม่จะมีโทษถึงตาย’[๕] แต่พวกคุณกลับสอนว่าไม่ผิดที่จะบอกพ่อแม่ว่า ‘สิ่งที่ลูกจะเอามาช่วยพ่อแม่ได้นั้น ลูกได้ยกให้กับพระเจ้าไปหมดแล้ว’[๖] ด้วยวิธีนี้ เขาก็เลยไม่ต้องเคารพพ่อของเขา เพราะเห็นแก่ประเพณีของคุณ คุณยกเลิกพระคำของพระเจ้า[๗] ไอ้พวกหน้าซื่อใจคด อิสยาห์ได้พูดแทนพระเจ้าเกี่ยวกับพวกคุณไว้ถูกต้องเลยที่ว่า[๘] ‘คนพวกนี้นับถือเราแต่ปากเท่านั้น แต่ใจของเขาห่างไกลจากเรามาก[๙] จึงไม่มีประโยชน์ที่เขาจะบูชาเรา เพราะสิ่งที่เขาสอนกันนั้น เป็นแค่กฎที่มนุษย์ตั้งขึ้น’” |
|
ลูกา ๑๔:๗-๘ |
[๗] เมื่อพระเยซูเห็นว่าแขกที่มาในงานชอบเลือกนั่งในที่ที่มีเกียรติ พระองค์ก็เลยใช้เรื่องเปรียบเทียบสอนว่า[๘] “เมื่อมีคนเชิญคุณไปงานแต่งงาน อย่าไปเลือกนั่งในที่ที่มีเกียรติ เพราะเจ้าภาพอาจจะเชิญแขกที่สำคัญกว่าคุณมา |
|
๒ โครินธ์ ๖:๘ |
ทั้งในเวลาที่คนให้เกียรติและไม่ให้เกียรติ ทั้งในเวลาที่คนพูดใส่ร้ายและพูดยกย่อง คนมองว่าเราเป็นคนหลอกลวงทั้งๆที่เราพูดความจริง |
|
วิวรณ์ ๕:๑๓ |
จากนั้นผมก็ได้ยินเสียงพวกสิ่งมีชีวิตทั้งปวงในสวรรค์ บนโลก ใต้แผ่นดินโลก และในทะเล ใช่แล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในจักรวาลนี้ พูดว่า “ขอคำสรรเสริญ เกียรติยศ ความรุ่งโรจน์ และฤทธิ์อำนาจ จงมีแด่พระองค์ผู้ที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ และแด่ลูกแกะตลอดกาล” |
|
วิวรณ์ ๔:๑๑ |
“พระเจ้าองค์เจ้าชีวิตของพวกเราทั้งหลาย พระองค์สมควรที่จะได้รับคำสรรเสริญ ได้รับเกียรติและฤทธิ์อำนาจ เพราะพระองค์เป็นผู้สร้างทุกสิ่งทุกอย่าง และทุกสิ่งทุกอย่างได้ถูกสร้างขึ้น และมีขึ้นมาตามใจพระองค์” |
|
๑ ทิโมธี ๖:๑๖ |
เป็นผู้เดียวที่ไม่มีวันตาย และเป็นผู้ที่อยู่ในความสว่างที่มนุษย์เข้าไม่ถึง พระองค์เป็นผู้ที่ไม่มีมนุษย์คนไหนเคยเห็นหรือสามารถมองเห็นได้ ขอให้พระองค์ได้รับเกียรติและมีฤทธิ์อำนาจตลอดไป อาเมน |
|
ฮีบรู 5:4 |
เรื่องตำแหน่งที่มีเกียรตินี้ ไม่ใช่ใครอยากจะชิงเอาเพื่อได้หน้าก็ทำได้ แต่ต้องเป็นพระเจ้าเองที่เรียกผู้นั้น เหมือนกับที่พระองค์เคยเรียกอาโรน |
|
มัทธิว ๑๕:๘ |
‘คนพวกนี้นับถือเราแต่ปากเท่านั้น แต่ใจของเขาห่างไกลจากเรามาก |
|
มัทธิว ๑๙:๑๙ |
ให้เคารพนับถือพ่อแม่ และรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตัวเอง’ ” |
|
ลูกา ๑๘:๒๐ |
คุณก็รู้กฎปฏิบัติแล้วนี่ ที่ว่า ‘อย่ามีชู้ อย่าฆ่าคน อย่าขโมย อย่าเป็นพยานเท็จ และให้เคารพนับถือพ่อแม่’” |
|
มัทธิว ๑๓:๕๗ |
พวกเขาจึงขุ่นเคืองพระองค์มาก แต่พระองค์พูดกับพวกเขาว่า “ผู้พูดแทนพระเจ้า ได้รับเกียรติในทุกที่ ยกเว้นในบ้านเมือง และในครอบครัวของตนเองเท่านั้น” |
|
มาระโก ๖:๔ |
พระเยซูจึงพูดกับพวกเขาว่า “ผู้พูดแทนพระเจ้าได้รับเกียรติในทุกที่ ยกเว้นในบ้านเมือง ในหมู่ญาติพี่น้อง และในครอบครัวของตัวเอง” |
|
ยอห์น ๑๒:๒๓-๒๖ |
[๒๓] พระเยซูบอกเขาทั้งสองว่า “ถึงเวลาแล้วที่พระเจ้าจะแสดงให้เห็นว่า บุตรมนุษย์นั้นยิ่งใหญ่แค่ไหน[๒๔] เราจะบอกให้รู้ว่า ถ้าเมล็ดพืชไม่ตกลงดินและตาย มันก็จะเป็นแค่เมล็ดเดียวเหมือนเดิม แต่ถ้ามันตาย มันจะงอกเป็นเมล็ดพืชอีกมากมาย[๒๕] คนที่รักชีวิตของตนเองก็จะสูญเสียชีวิตไป แต่คนที่เกลียดชีวิตของตนในโลกนี้ก็จะได้รักษาชีวิตไว้ให้อยู่กับพระเจ้าตลอดไป[๒๖] ถ้าใครรับใช้เรา เขาก็จะต้องติดตามเราไปไม่ว่าจะเป็นที่ไหนก็ตาม คนรับใช้ของเราก็จะต้องอยู่ที่นั่นด้วย ถ้าใครรับใช้เรา พระบิดาก็จะให้เกียรติคนนั้น” |
|
ฮีบรู 2:9 |
แต่ก่อนพระเจ้าทำให้พระเยซูอยู่ต่ำกว่าพวกทูตสวรรค์แค่ชั่วคราว แต่ตอนนี้เราเห็นพระเยซูได้รับสง่าราศีและเกียรติยศเป็นรางวัลแล้ว เพราะพระองค์ทนทุกข์ทรมานจนตาย พระเจ้ามีเมตตากรุณาต่อเรา พระเยซูถึงมาลิ้มรสความตายเพื่อประโยชน์ให้กับมนุษย์ทุกคน |
|
อพยพ ๒๐:๑๒ |
ให้เคารพพ่อแม่ของเจ้า เพื่อพวกเจ้าจะได้มีชีวิตยืนยาวบนแผ่นดินที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้ากำลังให้กับเจ้า |
|
อิสยาห์ 29:13 |
องค์เจ้าชีวิตพูดว่า “คนพวกนี้เข้ามาใกล้เราด้วยปากของเขาเท่านั้น พวกเขาให้เกียรติเราด้วยริมฝีปากเท่านั้น แต่หัวใจของพวกเขาห่างไกลจากเรา และที่พวกเขามานมัสการเรานั้นก็เป็นแค่ทำตามกฎของมนุษย์ที่ท่องจำกันมาเท่านั้น |
|
๑ ซามูเอล ๒:๓๐ |
เพราะอย่างนี้ พระยาห์เวห์ พระเจ้าของอิสราเอล จึงได้ประกาศว่า ‘เราเคยสัญญาว่า ครอบครัวของเจ้าและครอบครัวของพ่อเจ้า จะเป็นผู้รับใช้อยู่ต่อหน้าเราตลอดไป’ แต่ตอนนี้พระยาห์เวห์ประกาศว่า ‘มันจะไม่เป็นอย่างนั้นหรอก ใครให้เกียรติเรา เราก็จะให้เกียรติคนนั้น แต่ใครที่ดูถูกเรา เราก็จะดูถูกคนนั้น’ |
|
สุภาษิต ๓:๙ |
ให้ถวายเกียรติกับพระยาห์เวห์ด้วยทรัพย์สมบัติของเจ้า และด้วยผลผลิตแรกจากพืชผลทุกชนิดที่เจ้าปลูกไว้ |
|
เฉลยธรรมบัญญัติ ๕:๑๖ |
ให้เคารพพ่อแม่ของเจ้าตามที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าได้สั่งเจ้าไว้ เพื่อเจ้าจะได้มีอายุยืนยาวและเจริญรุ่งเรืองในแผ่นดินที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้ากำลังให้กับเจ้านี้ |
|
สุภาษิต ๒๑:๒๑ |
คนที่ไล่ตามสิ่งที่ถูกต้องและความจงรักภักดี ก็จะพบกับชีวิตที่ยืนยาว ความเจริญรุ่งเรืองและเกียรติยศ |
|
สุภาษิต ๒๒:๔ |
ความถ่อมสุภาพอันได้แก่ การยำเกรงพระยาห์เวห์ จะนำมาซึ่ง ความมั่งคั่ง เกียรติยศ และชีวิตยืนยาว |
|
สุภาษิต ๑๔:๓๑ |
คนที่กดขี่ข่มเหงคนยากจนกำลังดูหมิ่นพระผู้สร้างคนจนนั้น แต่คนที่เอื้อเฟื้อต่อคนยากไร้กำลังให้เกียรติกับพระองค์ |
|
สดุดี ๘:๕-๖ |
[๕] พระองค์สร้างเขาให้ด้อยกว่าพระเจ้าแค่นิดเดียวเท่านั้น พระองค์ได้สวมมงกุฎแห่งเกียรติและศักดิ์ศรีให้กับเขา[๖] พระองค์ตั้งเขาให้ครอบครองอยู่เหนือทุกสิ่งที่พระองค์สร้างขึ้น พระองค์วางทุกสิ่งทุกอย่างไว้ใต้เท้าของเขา |
|
สุภาษิต ๒๙:๒๓ |
ความเย่อหยิ่งจะทำให้คนตกต่ำ แต่คนที่ถ่อมตัวจะได้รับเกียรติ |
|
มาลาคี ๑:๖ |
เรา ยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น พูดกับพวกเจ้าที่เป็นนักบวชว่า “ลูกย่อมให้เกียรติกับพ่อ คนใช้ก็ย่อมให้เกียรติกับเจ้านาย เราเป็นพ่อของเจ้า แล้วไหนล่ะ เกียรติที่เราควรจะได้รับ เราเป็นเจ้านายของเจ้า แล้วไหนล่ะ ความยำเกรงที่คนควรจะให้เรา พวกเจ้าดูหมิ่นชื่อของเรา” แต่เจ้าถามว่า “พวกเราดูหมิ่นพระองค์ตรงไหน” |
|
๑ ทิโมธี ๕:๓ |
ให้เกียรติพวกแม่ม่ายที่ไม่มีญาติพี่น้อง |
|
๑ ทิโมธี ๖:๑ |
ทุกคนที่เป็นทาสอยู่ภายใต้แอกของเจ้านายที่ไม่เชื่อพระเจ้า ให้เคารพนับถือนายของเขาในทุกเรื่อง จะได้ไม่มีใครดูหมิ่นชื่อของพระเจ้าและคำสอนของเรา |
|
Thai Bible (ERV) 2001 |
Copyright © 2001 by Bible League International |