มาระโก 10:19 |
คุณก็รู้กฎปฏิบัติดีอยู่แล้วนี่ ที่ว่าอย่าฆ่าคน อย่ามีชู้ อย่าขโมย อย่าเป็นพยานเท็จ อย่าโกง และให้เคารพนับถือพ่อแม่” |
|
ลูกา ೧೮:೨೦ |
คุณก็รู้กฎปฏิบัติแล้วนี่ ที่ว่า ‘อย่ามีชู้ อย่าฆ่าคน อย่าขโมย อย่าเป็นพยานเท็จ และให้เคารพนับถือพ่อแม่’” |
|
มัทธิว ๒๒:๓๔-๔๐ |
[๓๔] เมื่อพวกฟาริสีได้ยินว่าพระเยซูทำให้พวกสะดูสีถึงกับอึ้งไปเลย พวกเขาก็มาชุมนุมกัน[๓๕] คนหนึ่งในพวกเขาที่คล่องกฎของโมเสสมาก ได้มาทดสอบพระเยซูว่า[๓๖] “อาจารย์ ในกฎของโมเสส คำสั่งข้อไหนสำคัญที่สุดครับ”[๓๗] พระเยซูจึงตอบว่า “‘รักองค์เจ้าชีวิตพระเจ้าของคุณอย่างสุดใจ สุดจิต และสิ้นสุดความคิด’[๓๘] นี่คือคำสั่งข้อแรกและข้อสำคัญที่สุด[๓๙] ส่วนคำสั่งข้อสองที่สำคัญรองลงมาคือ ‘รักเพื่อนบ้านเหมือนรักตัวเอง’[๔๐] กฎปฏิบัติทั้งหมดและสิ่งที่ผู้พูดแทนพระเจ้า เขียนไว้ ก็ขึ้นอยู่กับคำสั่งสองข้อนี้” |
|
โรม ೧೩:೯ |
ในกฎบัญญัติมีคำสั่งมากมายเช่น “อย่าเป็นชู้” “อย่าฆ่าคน” “อย่าขโมย” “อย่าโลภ” และยังมีคำสั่งอื่นๆอีก แต่ทั้งหมดนั้นก็สรุปได้ว่า “ให้รักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง” |
|
มัทธิว ೧೯:೧೬-೧೯ |
[೧೬] มีชายคนหนึ่งมาหาพระเยซู และถามว่า “อาจารย์ครับ ผมจะต้องทำความดีอะไรถึงจะมีชีวิตกับพระเจ้าตลอดไป”[೧೭] พระเยซูตอบว่า “คุณถามเราทำไมว่า อะไรดี มีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่ดี ถ้าคุณอยากมีชีวิตกับพระเจ้าตลอดไป ก็ต้องทำตามกฎปฏิบัติ”[೧೮] ชายหนุ่มจึงถามว่า “กฎข้อไหนครับ” พระเยซูตอบว่า “ข้อที่ว่า ‘อย่าฆ่าคน อย่ามีชู้ อย่าขโมย อย่าเป็นพยานเท็จ[೧೯] ให้เคารพนับถือพ่อแม่ และรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตัวเอง’ ” |
|
มัทธิว ೨೨:೩೬-೪೦ |
[೩೬] “อาจารย์ ในกฎของโมเสส คำสั่งข้อไหนสำคัญที่สุดครับ”[೩೭] พระเยซูจึงตอบว่า “‘รักองค์เจ้าชีวิตพระเจ้าของคุณอย่างสุดใจ สุดจิต และสิ้นสุดความคิด’[೩೮] นี่คือคำสั่งข้อแรกและข้อสำคัญที่สุด[೩೯] ส่วนคำสั่งข้อสองที่สำคัญรองลงมาคือ ‘รักเพื่อนบ้านเหมือนรักตัวเอง’[೪೦] กฎปฏิบัติทั้งหมดและสิ่งที่ผู้พูดแทนพระเจ้า เขียนไว้ ก็ขึ้นอยู่กับคำสั่งสองข้อนี้” |
|
มัทธิว ೧೦:೧೭-೨೨ |
[೧೭] ระวังให้ดีเพราะคนพวกนั้นจะจับพวกคุณไปขึ้นศาล และเฆี่ยนคุณในที่ประชุม[೧೮] พวกคุณจะถูกนำตัวไปยืนต่อหน้าเจ้าเมืองและกษัตริย์ เพราะคุณเป็นศิษย์ของเรา พวกคุณจะต้องเป็นพยานเล่าเรื่องของเราให้กษัตริย์ เจ้าเมือง และคนที่ไม่ใช่ชาวยิวฟัง[೧೯] เมื่อโดนจับ ไม่ต้องเป็นห่วงว่าจะพูดอะไร หรือจะพูดอย่างไร เพราะเมื่อถึงเวลา พระเจ้าจะบอกเองว่าจะให้คุณพูดอะไร[೨೦] จริงๆแล้ว คนที่พูดจะไม่ใช่ตัวพวกคุณ แต่เป็นพระวิญญาณของพระบิดาพูดผ่านทางคุณ[೨೧] พี่น้องจะหักหลังกันเองให้ไปถูกฆ่า พ่อจะหักหลังลูกให้ไปถูกฆ่า ลูกๆจะต่อต้านพ่อแม่ และส่งพ่อแม่ไปให้ถูกฆ่า[೨೨] ทุกคนจะเกลียดพวกคุณ เพราะพวกคุณเป็นศิษย์ของเรา แต่ใครที่ทนได้จนถึงที่สุดก็จะได้รับความรอด |
|
โรม ๑๓:๘-๑๔ |
[๘] อย่าเป็นหนี้อะไรกับใครเลย นอกจากหนี้รักที่มีต่อกันและกัน เพราะคนที่รักคนอื่นก็ถือว่าได้ทำตามกฎครบถ้วนแล้ว[๙] ในกฎบัญญัติมีคำสั่งมากมายเช่น “อย่าเป็นชู้” “อย่าฆ่าคน” “อย่าขโมย” “อย่าโลภ” และยังมีคำสั่งอื่นๆอีก แต่ทั้งหมดนั้นก็สรุปได้ว่า “ให้รักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง”[๑๐] ความรักไม่ทำร้ายเพื่อนบ้าน เป็นเหตุที่ว่า ถ้ามีความรักก็ถือว่าได้ทำตามกฎครบถ้วนแล้ว[๑๑] ให้ทำอย่างที่บอกนี้ เพราะถึงเวลาตื่นได้แล้ว ความรอดของเรานั้นได้เข้ามาใกล้มากยิ่งกว่าตอนที่เราเพิ่งไว้วางใจใหม่ๆ[๑๒] กลางคืน ใกล้จะผ่านไป ตอนเช้า ใกล้จะมาแล้ว ดังนั้นขอให้เราเลิกทำในสิ่งที่เป็นของความมืด และให้สวมอาวุธที่เป็นของความสว่าง[๑๓] ทำตัวให้น่านับถือเหมือนคนที่ใช้ชีวิตอยู่ในกลางวัน ไม่เที่ยวมั่วสุม ไม่เสพสุราเมามาย ไม่ทำผิดทางเพศ ไม่มักมากในกาม ไม่ทะเลาะวิวาทและไม่อิจฉาริษยา[๑๔] แต่ให้สวมใส่พระเยซูคริสต์เจ้า และอย่าให้ความสนใจกับกิเลสตัณหาที่มาจากสันดานเลย |
|
มาระโก 12:28-34 |
[28] มีครูสอนกฎปฏิบัติคนหนึ่งที่ยืนฟังพวกเขาถามตอบกันอยู่ที่นั่น เขาเห็นว่าพระเยซูตอบได้ดีมากทีเดียว จึงเข้าไปถามพระองค์ว่า “กฎทั้งหมด ข้อไหนสำคัญที่สุด”[29] พระเยซูตอบว่า “ข้อที่สำคัญที่สุดคือ ‘พวกอิสราเอลฟังไว้ให้ดี องค์เจ้าชีวิตพระเจ้าของเราเป็นองค์เจ้าชีวิตแต่เพียงผู้เดียว[30] ให้รักองค์เจ้าชีวิตพระเจ้าของเจ้าอย่างสุดใจ สุดจิต สุดความคิด และสุดกำลังของเจ้า’[31] ข้อที่สำคัญรองลงมาคือ ‘ให้รักเพื่อนบ้านเหมือนรักตัวเอง’ ไม่มีกฎข้อไหนที่ยิ่งใหญ่ไปกว่าสองข้อนี้อีกแล้ว”[32] ครูสอนกฎปฏิบัติคนนี้ก็พูดกับพระเยซูว่า “อาจารย์พูดถูกต้องเลยที่ว่ามีพระเจ้าเพียงองค์เดียว ไม่มีพระอะไรอีกแล้วนอกจากพระองค์เท่านั้น[33] และการรักพระองค์สุดใจ สุดความคิด สุดกำลัง และการรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตัวเอง สำคัญยิ่งกว่าการนำเครื่องเผาบูชาและเครื่องเซ่นไหว้ต่างๆมาถวายตามกฎเสียอีก”[34] เมื่อพระเยซูเห็นเขาตอบได้อย่างเฉลียวฉลาด พระองค์ก็พูดว่า “คุณอยู่ไม่ไกลจากอาณาจักรของพระเจ้าแล้ว” หลังจากนั้นก็ไม่มีใครกล้าถามพระองค์อีกเลย |
|
อพยพ ๓๔:๒๘ |
โมเสสอยู่ที่นั่นกับพระยาห์เวห์สี่สิบวัน สี่สิบคืน เขาไม่ได้กินอาหารหรือดื่มน้ำเลย เขาเขียนคำสั่งต่างๆของข้อตกลงทั้งสิบข้อลงบนแผ่นหินสองแผ่นนั้น |
|
เฉลยธรรมบัญญัติ ๔:๑๓ |
พระองค์ได้ประกาศคำสอนของพระองค์ และพระองค์ได้สั่งให้พวกท่านทำตามคำสอนเหล่านั้น ซึ่งก็คือบัญญัติสิบประการ และพระองค์ได้เขียนมันไว้บนแผ่นหินสองแผ่น |
|
เฉลยธรรมบัญญัติ ๑๐:๔ |
พระยาห์เวห์ได้เขียนคำพูดเดิมที่เคยเขียนไปแล้วครั้งก่อนลงบนหินสองแผ่นนี้ คือบัญญัติสิบประการที่พระยาห์เวห์ได้พูดกับพวกท่านบนภูเขา ที่พระองค์พูดออกมาจากไฟในวันที่พวกท่านไปอยู่รวมกันที่นั่น แล้วพระองค์ก็ให้แผ่นหินนั้นกับเรา |
|
เฉลยธรรมบัญญัติ ๕:๗-๒๒ |
[๗] เจ้าต้องไม่มีพระอื่นนอกจากเรา[๘] เจ้าต้องไม่ทำรูปเคารพให้กับตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นรูปอะไรก็ตามที่อยู่ในท้องฟ้า หรืออยู่บนพื้นดิน หรืออยู่ใต้น้ำ[๙] เจ้าต้องไม่กราบไหว้หรือรับใช้สิ่งต่างๆเหล่านั้น เพราะเรา คือยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า เป็นพระเจ้าที่หึงหวง บาปที่รุ่นพ่อทำไว้ เราจะไปลงโทษที่ลูกของเขา และแม้แต่หลาน เหลน ของคนพวกนั้นที่เกลียดเรา[๑๐] แต่คนที่รักเราและเชื่อฟังคำสั่งสอนของเรา เราก็จะเมตตาปรานีครอบครัวของเขาเป็นพันๆรุ่น[๑๑] เจ้าต้องไม่อ้างชื่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าเล่นๆ เพราะพระยาห์เวห์จะถือว่าคนนั้นมีความผิดที่อ้างชื่อของพระองค์มาสาบานกันเล่นๆ[๑๒] ให้รักษาวันหยุดทางศาสนาไว้เป็นวันศักดิ์สิทธิ์ ตามที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าได้สั่งไว้[๑๓] ในช่วงหกวันแรกของแต่ละอาทิตย์ เจ้าก็ทำงานได้ตามปกติ[๑๔] แต่วันที่เจ็ดเป็นวันหยุดพักผ่อน ซึ่งอุทิศให้กับพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า เจ้าต้องไม่ทำงานใดๆในวันนั้น ทั้งตัวเจ้า ลูกชายลูกสาวของเจ้า หรือทาสชายหญิง หรือวัวหรือลาของเจ้า หรือสัตว์อื่นๆของเจ้าหรือชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในเมืองของเจ้า เพื่อว่าทาสชายหญิงของเจ้าจะได้หยุดพักผ่อนเหมือนเจ้า[๑๕] อย่าลืมว่าเจ้าก็เคยเป็นทาสอยู่ในแผ่นดินอียิปต์มาก่อน และพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าได้นำเจ้าออกมาจากที่นั่นด้วยมือที่เต็มไปด้วยฤทธิ์อำนาจและแขนที่แข็งแกร่งของพระองค์ เพราะอย่างนี้ พระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าถึงได้สั่งให้เจ้ารักษาวันหยุดทางศาสนา[๑๖] ให้เคารพพ่อแม่ของเจ้าตามที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าได้สั่งเจ้าไว้ เพื่อเจ้าจะได้มีอายุยืนยาวและเจริญรุ่งเรืองในแผ่นดินที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้ากำลังให้กับเจ้านี้[๑๗] เจ้าต้องไม่ฆ่าคน[๑๘] เจ้าต้องไม่เป็นชู้[๑๙] เจ้าต้องไม่ขโมย[๒๐] เจ้าต้องไม่เป็นพยานเท็จ ปรักปรำเพื่อนบ้านของเจ้า[๒๑] เจ้าต้องไม่อยากได้เมียของเพื่อนบ้าน เจ้าต้องไม่โลภอยากได้ของของเพื่อนบ้าน ไม่ว่าจะเป็นบ้าน ที่นา ทาสชายหญิง วัว หรือลา หรืออะไรก็ตามที่เป็นของของเพื่อนบ้านเจ้า’”[๒๒] โมเสสพูดอีกว่า “คำสั่งพวกนี้ พระยาห์เวห์ได้พูดด้วยเสียงอันดังกับพวกท่านทั้งหมดที่มาประชุมกันอยู่ที่ภูเขา พระองค์พูดจากท่ามกลางไฟ เมฆและหมอกหนาทึบ หลังจากนั้น พระองค์ก็ไม่พูดอะไรอีกเลย พระองค์ได้เขียนคำสั่งนี้ไว้บนแผ่นหินสองแผ่นและเอามาให้กับเรา |
|
เฉลยธรรมบัญญัติ ๖:๒๑ |
แล้วท่านจะได้ตอบกับลูกของท่านว่า ‘พวกเราเคยเป็นทาสของกษัตริย์ฟาโรห์ในประเทศอียิปต์มาก่อน แต่พระยาห์เวห์ได้นำพวกเราออกมาจากอียิปต์ด้วยมือที่เต็มไปด้วยฤทธิ์อำนาจของพระองค์ |
|
เฉลยธรรมบัญญัติ ๑๐:๑-๕ |
[๑] ในเวลานั้น พระยาห์เวห์พูดกับเราว่า ‘ตัดหินมาใหม่อีกสองแผ่นให้เหมือนกับสองแผ่นแรก แล้วขึ้นมาหาเราบนภูเขานี้ และให้ทำหีบไม้มาด้วย[๒] เราจะเขียนบัญญัติบนแผ่นหินนี้ เป็นบัญญัติเดียวกับที่ได้เขียนไปแล้วบนแผ่นหินชุดแรกที่เจ้าทำแตกไปนั้น แล้วเจ้าจะได้วางพวกมันลงในหีบไม้’[๓] เราจึงทำหีบไม้ขึ้นหนึ่งใบจากไม้กระถินเทศ และตัดหินใหม่สองแผ่นที่เหมือนกับหินสองแผ่นแรก แล้วเราก็ขึ้นไปบนภูเขาพร้อมกับหินสองแผ่นนั้นในมือ[๔] พระยาห์เวห์ได้เขียนคำพูดเดิมที่เคยเขียนไปแล้วครั้งก่อนลงบนหินสองแผ่นนี้ คือบัญญัติสิบประการที่พระยาห์เวห์ได้พูดกับพวกท่านบนภูเขา ที่พระองค์พูดออกมาจากไฟในวันที่พวกท่านไปอยู่รวมกันที่นั่น แล้วพระองค์ก็ให้แผ่นหินนั้นกับเรา[๕] เราก็กลับลงมาจากบนเขา เราได้วางแผ่นหินนั้นไว้ในหีบไม้ที่เราได้ทำขึ้น และแผ่นหินพวกนั้นก็ยังคงอยู่ที่นั่น เหมือนกับที่พระยาห์เวห์ได้สั่งเราไว้ |
|
อพยพ ๒๐:๑-๑๗ |
[๑] พระเจ้าพูดว่า[๒] “เราคือยาห์เวห์ พระเจ้าของเจ้า เราได้นำเจ้าออกมาจากแผ่นดินอียิปต์ ออกมาจากการเป็นทาสนั้น[๓] เจ้าต้องไม่มีพระอื่นๆนอกจากเรา[๔] เจ้าต้องไม่สร้างรูปเคารพหรือรูปเหมือนอะไรที่มีอยู่ในท้องฟ้าเบื้องบนหรือในโลกเบื้องล่าง หรือในน้ำใต้พื้นดิน[๕] เจ้าต้องไม่กราบไหว้หรือบูชาสิ่งเหล่านั้น เพราะเราคือยาห์เวห์ พระเจ้าของเจ้า เราเป็นพระเจ้าที่หึงหวง บาปของพ่อเจ้าที่ทำไว้ เราจะลงโทษพวกเขาไปสามสี่ชั่วคน คือคนเหล่านั้นที่เกลียดเรา[๖] ส่วนคนที่รักเราและรักษาคำสั่งต่างๆของเรา เราจะรักลูกหลานของเขาไปเป็นพันๆรุ่น[๗] เจ้าต้องไม่อ้างชื่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าเล่นๆ เพราะพระยาห์เวห์จะไม่ถือว่าคนนั้นไร้ความผิด ที่อ้างชื่อของพระองค์มาสาบานกันเล่นๆ[๘] อย่าลืมที่จะถือวันหยุดทางศาสนาเป็นวันศักดิ์สิทธิ์[๙] ในช่วงหกวันแรกของแต่ละอาทิตย์ เจ้าก็ทำงานได้ตามปกติ[๑๐] แต่ในวันที่เจ็ด เป็นวันหยุดพักผ่อน ที่อุทิศให้กับพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า เจ้าต้องไม่ทำงานอะไรเลยในวันนี้ ทั้งเจ้า ลูกชาย ลูกสาว ทาสชาย ทาสหญิง สัตว์ทุกตัว หรือแม้แต่คนต่างชาติที่อาศัยร่วมกับเจ้า[๑๑] เพราะพระยาห์เวห์ได้สร้างท้องฟ้า พื้นดิน และมหาสมุทร รวมทั้งทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในพวกมัน เป็นเวลาหกวัน แต่พระองค์หยุดพักผ่อนในวันที่เจ็ด นั่นเป็นเหตุที่พระยาห์เวห์ ถึงได้อวยพรวันที่เจ็ดและตั้งให้มันเป็นวันศักดิ์สิทธิ์[๑๒] ให้เคารพพ่อแม่ของเจ้า เพื่อพวกเจ้าจะได้มีชีวิตยืนยาวบนแผ่นดินที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้ากำลังให้กับเจ้า[๑๓] ห้ามฆ่าคน[๑๔] ห้ามมีชู้กับผัวเมียคนอื่น[๑๕] ห้ามขโมย[๑๖] ห้ามเป็นพยานเท็จปรักปรำเพื่อนบ้านของเจ้า[๑๗] ห้ามโลภอยากได้บ้านของคนอื่น ห้ามโลภอยากได้ของของเพื่อนบ้าน ไม่ว่าจะเป็นเมียของเขา ทาสชายหญิง วัว ลา หรืออะไรก็แล้วแต่ที่เป็นของเพื่อนบ้าน” |
|
อพยพ ๒๔:๑๒ |
พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า “ขึ้นมาหาเราบนภูเขา และคอยเราที่นั่น เพื่อเราจะให้แผ่นหินสองแผ่น ที่มีกฎและพวกคำสั่งสอน ที่เราได้เขียนไว้สำหรับสอนพวกเขา” |
|
อพยพ ๓๔:๑๐-๒๙ |
[๑๐] พระยาห์เวห์พูดว่า “เรากำลังจะทำข้อตกลง เราจะทำสิ่งมหัศจรรย์ต่อหน้าคนของเจ้าทั้งหมด เป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่ไม่เคยทำมาก่อนในโลกท่ามกลางชนชาติทั้งหลาย ประชาชนทั้งหมดที่อยู่กับเจ้า จะได้เห็นผลงานของพระยาห์เวห์ เพราะสิ่งที่เรากำลังจะทำกับเจ้านั้นเป็นสิ่งที่น่าทึ่ง[๑๑] ให้เชื่อฟังสิ่งที่เราได้สั่งเจ้าในวันนี้ แล้วคอยดู เราจะขับไล่ชาวอาโมไรต์ ชาวคานาอัน ชาวฮิตไทต์ ชาวเปริสซี ชาวฮีไวต์ และชาวเยบุส ไปต่อหน้าเจ้า[๑๒] ระวังตัวให้ดี อย่าได้ไปทำข้อตกลงใดๆกับชาวเมืองที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินที่เจ้ากำลังจะไปนั้น เพื่อพวกเขาจะได้ไม่เป็นกับดักท่ามกลางเจ้า[๑๓] แต่เจ้าจะต้องรื้อแท่นบูชาของพวกเขา ทุบพวกเสาศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาให้แตกเป็นชิ้นๆและโค่นบรรดาเสาของพระอาเชราห์ของพวกเขา[๑๔] เจ้าจะต้องไม่ก้มกราบพระอื่นใด เพราะชื่อของเราคือ ยาห์เวห์ผู้หึงหวง เราเป็นพระเจ้าที่หึงหวง[๑๕] พวกเจ้าต้องระวังที่จะไม่ไปทำข้อตกลงกับชาวเมืองในแผ่นดินนั้น เพราะถ้าเจ้าทำอย่างนั้น เจ้าก็จะนอกใจพระเจ้า ไปติดตามและเซ่นไหว้พวกพระของพวกเขา และเมื่อพวกเขาเชิญเจ้าไปกินอาหาร เจ้าก็จะไปกินอาหารที่เขาเอาไปเซ่นไหว้พระของเขามา[๑๖] เจ้าก็จะไปเอาลูกสาวของพวกเขามาเป็นเมียลูกชายของพวกเจ้า แล้วลูกสาวของพวกเขาก็จะไปนมัสการพวกพระของพวกเขา และจะพลอยทำให้ลูกชายของเจ้าไปนมัสการพวกพระเหล่านั้นด้วย ซึ่งเป็นการนอกใจพระเจ้า[๑๗] เจ้าต้องไม่สร้างพวกพระที่หล่อขึ้นจากเหล็ก[๑๘] เจ้าต้องรักษาเทศกาลกินขนมปังที่ไม่ใส่เชื้อฟู เจ้าต้องกินขนมปังที่ไม่ใส่เชื้อฟูเป็นเวลาเจ็ดวัน ตามวันที่เราได้กำหนดไว้ในเดือนอาบีบ เพราะเดือนอาบีบเป็นเดือนที่เจ้าออกจากประเทศอียิปต์[๑๙] ลูกชายทุกคนที่เกิดออกมาเป็นท้องแรก จะเป็นของเรา ลูกตัวผู้ของสัตว์ทุกตัว ที่เกิดออกมาเป็นท้องแรก จะเป็นของเรา ไม่ว่าจะเป็นลูกของวัวควายหรือแกะ[๒๐] ลูกลาที่เกิดออกมาเป็นท้องแรก ถ้าเจ้าอยากจะซื้อคืนก็ให้เอาแกะมาแลก แต่ถ้าเจ้าไม่ต้องการซื้อลูกลาตัวนั้นคืน เจ้าต้องหักคอมัน เจ้าจะต้องซื้อลูกชายหัวปีของพวกเจ้าคืนทุกคน อย่าให้ใครเข้ามาหาเรามือเปล่า[๒๑] เจ้าทำงานได้ในหกวัน แต่ในวันที่เจ็ด เจ้าต้องพักผ่อน ถึงจะเป็นช่วงทำนาหรือช่วงเก็บเกี่ยวก็ตาม เจ้าก็ต้องพักผ่อน[๒๒] เจ้าต้องรักษาเทศกาลแห่งสัปดาห์ ให้ใช้ผลผลิตแรกที่ได้จากการเก็บเกี่ยวข้าวสาลีในเทศกาลนี้ และในฤดูใบไม้ร่วง ให้ฉลองเทศกาลเก็บเกี่ยวปลายปี[๒๓] พวกผู้ชายทุกๆคนท่ามกลางเจ้าจะต้องมาอยู่ต่อหน้าพระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิต พระเจ้าของอิสราเอล ปีละสามครั้ง[๒๔] เราจะขับไล่ชนชาติอื่นออกไปจากเจ้า และจะขยายเขตแดนของเจ้า เมื่อเจ้าขึ้นไปอยู่ต่อหน้าพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าปีละสามครั้งนั้น จะไม่มีใครพยายามมาแย่งที่ดินของเจ้า[๒๕] ห้ามเอาเลือดของเครื่องเซ่นไหว้เรา มาถวายพร้อมกับของที่ใส่เชื้อฟู และเครื่องเซ่นไหว้ในเทศกาลปลดปล่อยนั้น ห้ามเหลือค้างคืนจนถึงวันรุ่งขึ้น[๒๖] ทุกๆปี เจ้าต้องเอาผลผลิตที่ดีที่สุด ที่เก็บเกี่ยวครั้งแรกในปีนั้นไปยังสถานที่นมัสการพระยาห์เวห์ พระเจ้าของเจ้า เจ้าต้องไม่ต้มลูกแพะในน้ำนมของแม่มัน”[๒๗] พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า “ให้เขียนคำสั่งพวกนี้ลงไป เพราะคำสั่งพวกนี้ เป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงที่เราทำกับเจ้าและกับชาวอิสราเอล”[๒๘] โมเสสอยู่ที่นั่นกับพระยาห์เวห์สี่สิบวัน สี่สิบคืน เขาไม่ได้กินอาหารหรือดื่มน้ำเลย เขาเขียนคำสั่งต่างๆของข้อตกลงทั้งสิบข้อลงบนแผ่นหินสองแผ่นนั้น[๒๙] เมื่อโมเสสลงมาจากภูเขาซีนาย เขาถือแผ่นหินคำสอน สองแผ่นแห่งข้อตกลงนั้นในมือ โมเสสไม่รู้ว่าผิวหน้าของเขาเรืองแสงออกมา เพราะพระยาห์เวห์ได้พูดกับเขา |
|
เฉลยธรรมบัญญัติ ๖:๔-๙ |
[๔] ประชาชนชาวอิสราเอลเอ๋ย ฟังไว้ให้ดี มีแต่พระยาห์เวห์เท่านั้นที่เป็นพระเจ้าของเรา[๕] ท่านต้องรักพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ด้วยการทุ่มสุดใจ สุดชีวิต และสุดตัว ของท่านให้กับพระองค์[๖] คำสั่งเหล่านี้ที่เราได้สั่งท่านในวันนี้ ให้จดจำไว้ในใจเสมอ[๗] ท่องให้กับลูกๆฟัง และพูดถึงคำสั่งเหล่านี้ ไม่ว่าจะนั่งอยู่ในบ้านหรือเดินอยู่บนท้องถนน หรือนอนหรือลุกขึ้น[๘] เขียนผูกไว้ที่แขนเพื่อย้ำเตือน และผูกไว้ที่หน้าผากเหมือนผ้าโพกหัว[๙] เขียนไว้ที่เสาประตูบ้านและที่ประตูเมืองของท่าน |
|
อพยพ ๒๐:๒-๑๗ |
[๒] “เราคือยาห์เวห์ พระเจ้าของเจ้า เราได้นำเจ้าออกมาจากแผ่นดินอียิปต์ ออกมาจากการเป็นทาสนั้น[๓] เจ้าต้องไม่มีพระอื่นๆนอกจากเรา[๔] เจ้าต้องไม่สร้างรูปเคารพหรือรูปเหมือนอะไรที่มีอยู่ในท้องฟ้าเบื้องบนหรือในโลกเบื้องล่าง หรือในน้ำใต้พื้นดิน[๕] เจ้าต้องไม่กราบไหว้หรือบูชาสิ่งเหล่านั้น เพราะเราคือยาห์เวห์ พระเจ้าของเจ้า เราเป็นพระเจ้าที่หึงหวง บาปของพ่อเจ้าที่ทำไว้ เราจะลงโทษพวกเขาไปสามสี่ชั่วคน คือคนเหล่านั้นที่เกลียดเรา[๖] ส่วนคนที่รักเราและรักษาคำสั่งต่างๆของเรา เราจะรักลูกหลานของเขาไปเป็นพันๆรุ่น[๗] เจ้าต้องไม่อ้างชื่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าเล่นๆ เพราะพระยาห์เวห์จะไม่ถือว่าคนนั้นไร้ความผิด ที่อ้างชื่อของพระองค์มาสาบานกันเล่นๆ[๘] อย่าลืมที่จะถือวันหยุดทางศาสนาเป็นวันศักดิ์สิทธิ์[๙] ในช่วงหกวันแรกของแต่ละอาทิตย์ เจ้าก็ทำงานได้ตามปกติ[๑๐] แต่ในวันที่เจ็ด เป็นวันหยุดพักผ่อน ที่อุทิศให้กับพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า เจ้าต้องไม่ทำงานอะไรเลยในวันนี้ ทั้งเจ้า ลูกชาย ลูกสาว ทาสชาย ทาสหญิง สัตว์ทุกตัว หรือแม้แต่คนต่างชาติที่อาศัยร่วมกับเจ้า[๑๑] เพราะพระยาห์เวห์ได้สร้างท้องฟ้า พื้นดิน และมหาสมุทร รวมทั้งทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในพวกมัน เป็นเวลาหกวัน แต่พระองค์หยุดพักผ่อนในวันที่เจ็ด นั่นเป็นเหตุที่พระยาห์เวห์ ถึงได้อวยพรวันที่เจ็ดและตั้งให้มันเป็นวันศักดิ์สิทธิ์[๑๒] ให้เคารพพ่อแม่ของเจ้า เพื่อพวกเจ้าจะได้มีชีวิตยืนยาวบนแผ่นดินที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้ากำลังให้กับเจ้า[๑๓] ห้ามฆ่าคน[๑๔] ห้ามมีชู้กับผัวเมียคนอื่น[๑๕] ห้ามขโมย[๑๖] ห้ามเป็นพยานเท็จปรักปรำเพื่อนบ้านของเจ้า[๑๗] ห้ามโลภอยากได้บ้านของคนอื่น ห้ามโลภอยากได้ของของเพื่อนบ้าน ไม่ว่าจะเป็นเมียของเขา ทาสชายหญิง วัว ลา หรืออะไรก็แล้วแต่ที่เป็นของเพื่อนบ้าน” |
|
อพยพ ๓๑:๑๘ |
เมื่อพระยาห์เวห์พูดกับโมเสสเสร็จสิ้นแล้วบนภูเขาซีนาย พระองค์ก็มอบแผ่นหินสองแผ่นที่ถูกจารึกไว้ด้วยนิ้วมือของพระเจ้า ให้กับโมเสสไป |
|
ยอห์น ๑๔:๑๕ |
“ถ้าพวกคุณรักเรา คุณก็จะทำตามคำสั่งของเรา |
|
มัทธิว ๑๙:๑๘ |
ชายหนุ่มจึงถามว่า “กฎข้อไหนครับ” พระเยซูตอบว่า “ข้อที่ว่า ‘อย่าฆ่าคน อย่ามีชู้ อย่าขโมย อย่าเป็นพยานเท็จ |
|
ยอห์น ๑๕:๑๐ |
ถ้าคุณทำตามที่เราสั่ง ก็แสดงว่าคุณยังยึดมั่นอยู่ในความรักของเรา เหมือนกับที่เราทำตามคำสั่งของพระบิดา และยึดมั่นอยู่ในความรักของพระองค์ |
|
มัทธิว ๕:๑๗ |
อย่าคิดว่าเรามายกเลิกกฎปฏิบัติของโมเสส หรือมายกเลิกข้อความที่ผู้พูดแทนพระเจ้าเขียนไว้ เราไม่ได้มายกเลิกแต่มาทำให้มันสำเร็จ |
|
อพยพ ๓๒:๑๕ |
แล้วโมเสสก็กลับลงมาจากภูเขา พร้อมกับถือแผ่นหินแห่งข้อตกลงสองแผ่นที่มีคำสั่ง เขียนอยู่ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง |
|
ยอห์น ๑๕:๑๒-๑๗ |
[๑๒] คำสั่งของเราคือให้รักกันเหมือนกับที่เรารักคุณ[๑๓] ไม่มีความรักที่ยิ่งใหญ่กว่านี้อีกแล้ว คือการที่คนๆหนึ่งจะยอมตายเพื่อเพื่อนของตน[๑๔] พวกคุณก็เป็นเพื่อนของเราถ้าทำตามที่เราสั่ง[๑๕] เราจะไม่เรียกพวกคุณว่า ‘ทาส’ อีกต่อไป เพราะทาสจะไม่รู้ว่านายของเขาทำอะไร แต่เราเรียกพวกคุณว่า ‘เพื่อน’ เพราะเราได้บอกให้คุณรู้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราได้ยินจากพระบิดาของเราแล้ว[๑๖] พวกคุณไม่ได้เลือกเราหรอก แต่เราต่างหากที่เลือกคุณ และแต่งตั้งคุณให้ออกไปและเกิดผล เป็นผลที่ยั่งยืนตลอดไป แล้วพระบิดาจะให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณขอ เพราะคุณเป็นคนของเรา[๑๗] คำสั่งของเราคือ ให้รักกันและกัน |
|
อพยพ ๓๒:๑๖ |
แผ่นหินนั้นเป็นผลงานของพระเจ้า ตัวหนังสือบนแผ่นหินก็เป็นลายมือของพระเจ้า สลักอยู่บนแผ่นหินทั้งสองนั้น |
|
อพยพ ๓๔:๒๗ |
พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า “ให้เขียนคำสั่งพวกนี้ลงไป เพราะคำสั่งพวกนี้ เป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงที่เราทำกับเจ้าและกับชาวอิสราเอล” |
|
Thai Bible (ERV) 2001 |
Copyright © 2001 by Bible League International |