๒ พงศาวดาร ๑๖:๒๓-๓๑ |
[๒๓] พวกเขาสั่งสอนคนไปทั่วทั้งยูดาห์ โดยได้นำหนังสือกฎของพระยาห์เวห์ติดตัวไปด้วย พวกเขาเดินทางไปรอบๆทั่วทุกเมืองของยูดาห์และสั่งสอนประชาชนไปด้วย[๒๔] พระยาห์เวห์ทำให้อาณาจักรทั้งหลายที่อยู่ล้อมรอบยูดาห์ยำเกรงพระองค์ เพื่อพวกเขาจะได้ไม่มาทำสงครามกับเยโฮชาฟัท[๒๕] ชาวฟีลิสเตียบางพวกได้นำของขวัญมากมายและเงินมาให้กับเยโฮชาฟัท และพวกอาหรับนำแกะตัวผู้เจ็ดพันเจ็ดร้อยตัว และแพะเจ็ดพันเจ็ดร้อยตัวมาให้กับเขา[๒๖] เยโฮชาฟัทมีอำนาจมากขึ้นเรื่อยๆ เขาได้สร้างพวกป้อมและพวกเมืองสำหรับเก็บเสบียงในยูดาห์[๒๗] มีเสบียงเก็บอยู่มากมายตามหัวเมืองต่างๆของยูดาห์ เขายังมีพวกทหารที่เก่งกล้าอยู่ในเมืองเยรูซาเล็มด้วย[๒๘] พวกทหารเหล่านี้ได้รับการลงทะเบียนไว้ตามตระกูลของพวกเขา จากชาวยูดาห์ พวกแม่ทัพกองพัน มี อัดนาห์เป็นแม่ทัพ มีนักรบอยู่สามแสนคน[๒๙] ถัดไปคือแม่ทัพเยโฮฮานัน มีนักรบอยู่สองแสนแปดหมื่นคน[๓๐] ต่อจากนั้นคือ อามัสยาห์ลูกชายของศิครี เขาสมัครเข้ามารับใช้พระยาห์เวห์เอง เขามีนักรบอยู่สองแสนคน[๓๑] จากชาวเบนยามิน มี เอลียาดาซึ่งเป็นทหารกล้า มีนักรบสองแสนคน มีธนูและโล่เป็นอาวุธ |
|
ดาเนียล ๒:๒๐ |
ดาเนียลพูดว่า “ขอให้ชื่อของพระเจ้าเป็นที่สรรเสริญตลอดไป เพราะพระองค์เป็นเจ้าของสติปัญญาและฤทธิ์อำนาจ |
|
เฉลยธรรมบัญญัติ ๑๐:๒๑ |
พระองค์คือผู้ที่ท่านควรจะยกย่องสรรเสริญ พระองค์คือพระเจ้าของท่าน พระองค์ได้ทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่และน่ากลัวต่างๆนี้เพื่อท่าน ที่ท่านได้เห็นมาแล้วกับตาตัวเอง |
|
เยเรมีย์ ๒๐:๑๓ |
ร้องเพลงแด่พระยาห์เวห์ สรรเสริญพระยาห์เวห์สิ เพราะพระองค์ได้ช่วยชีวิตคนยากจน ให้รอดพ้นจากเงื้อมมือของคนที่ทำชั่วร้าย |
|
สดุดี ๗๕:๑ |
ถึงหัวหน้านักร้อง ให้ร้องเพลงนี้ตามทำนอง “อย่าทำลาย” เพลงสดุดีของอาสาฟ ข้าแต่พระเจ้า พวกเราสรรเสริญพระองค์ พวกเราสรรเสริญพระองค์ พระองค์นั้นอยู่ใกล้ ผู้คนต่างพูดถึงสิ่งน่าทึ่งต่างๆที่พระองค์ทำ |
|
อพยพ ๒๐:๒-๖ |
[๒] “เราคือยาห์เวห์ พระเจ้าของเจ้า เราได้นำเจ้าออกมาจากแผ่นดินอียิปต์ ออกมาจากการเป็นทาสนั้น[๓] เจ้าต้องไม่มีพระอื่นๆนอกจากเรา[๔] เจ้าต้องไม่สร้างรูปเคารพหรือรูปเหมือนอะไรที่มีอยู่ในท้องฟ้าเบื้องบนหรือในโลกเบื้องล่าง หรือในน้ำใต้พื้นดิน[๕] เจ้าต้องไม่กราบไหว้หรือบูชาสิ่งเหล่านั้น เพราะเราคือยาห์เวห์ พระเจ้าของเจ้า เราเป็นพระเจ้าที่หึงหวง บาปของพ่อเจ้าที่ทำไว้ เราจะลงโทษพวกเขาไปสามสี่ชั่วคน คือคนเหล่านั้นที่เกลียดเรา[๖] ส่วนคนที่รักเราและรักษาคำสั่งต่างๆของเรา เราจะรักลูกหลานของเขาไปเป็นพันๆรุ่น |
|
ยอห์น ๔:๒๑-๒๔ |
[๒๑] พระองค์ตอบว่า “เชื่อเราสิ ใกล้จะถึงเวลาแล้วที่มันจะไม่สำคัญอีกต่อไปว่าจะกราบไหว้บูชาพระเจ้าพระบิดาที่ภูเขานี้หรือที่เมืองเยรูซาเล็ม[๒๒] จริงๆแล้วพวกคุณชาวสะมาเรียไม่รู้จักพระเจ้าที่พวกคุณกราบไหว้บูชาอยู่ แต่พวกเราชาวยิวรู้จักพระเจ้าที่พวกเรากราบไหว้บูชา เพราะพระเจ้าจะช่วยโลกนี้ให้รอดโดยผ่านทางชาวยิว[๒๓] แต่เวลานั้นใกล้จะมาถึงแล้ว และตอนนี้ก็มาถึงแล้ว ที่ผู้คนกราบไหว้บูชาอย่างแท้จริงจะต้องกราบไหว้บูชาพระบิดาด้วยอำนาจของพระวิญญาณบริสุทธิ์และด้วยความจริง คนอย่างนี้แหละที่พระบิดาตามหาให้มากราบไหว้บูชาพระองค์อยู่[๒๔] พระเจ้าเป็นพระวิญญาณ ดังนั้นคนที่กราบไหว้บูชาพระองค์จะต้องกราบไหว้บูชาด้วยอำนาจของพระวิญญาณและด้วยความจริง” |
|
สดุดี ๙๙:๑-๙ |
[๑] พระยาห์เวห์เป็นกษัตริย์ ให้ชนชาติต่างๆสั่นเทิ้มด้วยความกลัว พระยาห์เวห์นั่งอยู่บนบัลลังก์เหนือทูตสวรรค์ที่มีปีก ให้โลกสั่นเทิ้มด้วยความกลัว[๒] พระยาห์เวห์นั้นยิ่งใหญ่ในเมืองศิโยน พระองค์นั้นมีอำนาจสูงส่งเหนือชนชาติทั้งสิ้น[๓] ให้พวกเขาสรรเสริญชื่ออันยิ่งใหญ่และน่าเกรงขามของพระองค์ พระองค์นั้นศักดิ์สิทธิ์[๔] ข้าแต่กษัตริย์ผู้มีฤทธิ์เกรียงไกร ผู้ที่รักความยุติธรรม พระองค์ได้ก่อตั้งความเที่ยงธรรม พระองค์ทำสิ่งที่ยุติธรรมและถูกต้องให้กับคนของยาโคบ[๕] ให้ยกย่องพระยาห์เวห์ พระเจ้าของเรา และกราบลงต่อหน้าที่วางเท้าของพระองค์ พระองค์นั้นศักดิ์สิทธิ์[๖] โมเสสและอาโรนอยู่ในกลุ่มของนักบวชของพระเจ้า ซามูเอลก็อยู่ในพวกคนเหล่านั้นที่เรียกชื่อของพระองค์ คนเหล่านั้นอธิษฐานต่อพระยาห์เวห์และพระองค์ก็ตอบพวกเขา[๗] พระองค์พูดกับพวกเขาจากเสาเมฆ และพวกเขาก็เชื่อฟังกฎ และบัญญัติต่างๆที่พระองค์มอบให้กับพวกเขา[๘] ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้าของพวกเรา พระองค์ตอบพวกเขาแล้ว พวกเขาเห็นว่าพระองค์เป็นทั้งพระเจ้าที่ให้อภัย และพระเจ้าที่ลงโทษด้วย สำหรับสิ่งชั่วๆที่พวกเขาทำ[๙] ให้ยกย่องพระยาห์เวห์ พระเจ้าของพวกเรา และก้มกราบลงไปทางภูเขาอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ เพราะพระยาห์เวห์ พระเจ้าของเรานั้นศักดิ์สิทธิ์ |
|
เฉลยธรรมบัญญัติ ๒๙:๑๘ |
ระวังให้ดี เผื่อจะมีผู้ชายหรือผู้หญิงหรือตระกูลหรือเผ่าใดของพวกท่าน ที่มีใจหันเหไปจากพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเราในวันนี้ เพื่อที่จะไปรับใช้พวกพระของชนชาติอื่น ระวังให้ดี เผื่อจะมีใครในหมู่พวกท่านที่เป็นเหมือนรากที่งอกพืชที่ขมและมีพิษออกมา |
|
โรม 12:1-2 |
[1] ดังนั้นพี่น้องครับ พระเจ้าได้เมตตากรุณาต่อเรา ผมก็เลยขอร้องให้คุณมอบร่างกายของคุณเป็นเครื่องบูชาที่มีชีวิตอยู่ เป็นเครื่องบูชาที่บริสุทธิ์ และเป็นที่พอใจของพระเจ้า การทำอย่างนี้เป็นการนมัสการซึ่งสมกับที่พระเจ้าได้อวยพรคุณ[2] อย่าทำตามอย่างคนในโลกนี้ แต่ขอยอมให้พระเจ้าเปลี่ยนแปลงคุณ คือพระองค์จะให้จิตใจใหม่กับคุณเพื่อจะได้รู้ว่าพระเจ้าต้องการอะไร สิ่งไหนดี สิ่งไหนพระองค์ชอบใจ และสิ่งไหนสมบูรณ์แบบ |
|
๑ ซามูเอล 15:22 |
แต่ซามูเอลตอบว่า “พระยาห์เวห์ชอบใจในเครื่องเผาบูชาและสัตวบูชา เท่าๆกับการเชื่อฟังเสียงของพระยาห์เวห์หรือยังไง การเชื่อฟัง ก็ดีกว่าการถวายเครื่องบูชา การยอมฟัง ก็ดีกว่าไขมันของพวกแกะตัวผู้ |
|
วิวรณ์ 4:8-11 |
[8] สิ่งมีชีวิตทั้งสี่ตนนี้ แต่ละตนมีปีกหกปีกและมีดวงตารอบตัวและใต้ปีกด้วย ตลอดทั้งวันทั้งคืน พวกเขาไม่เคยหยุดพูดว่า “ศักดิ์สิทธิ์ ศักดิ์สิทธิ์ ศักดิ์สิทธิ์ คือพระเจ้าองค์เจ้าชีวิตผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น เป็นผู้ที่อยู่ในปัจจุบัน ในอดีต และกำลังจะมาในอนาคต”[9] เมื่อสิ่งมีชีวิตทั้งสี่กล่าวคำสรรเสริญถวายพระเกียรติ และขอบคุณพระองค์ผู้ที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ ผู้ซึ่งจะมีชีวิตอยู่ตลอดไป[10] ผู้อาวุโสทั้งยี่สิบสี่องค์ ก็ก้มลงกราบนมัสการพระองค์ผู้ที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ และผู้มีชีวิตอยู่ตลอดไป พวกเขาถอดมงกุฎของตัวเองวางลงตรงหน้าบัลลังก์ของพระองค์ แล้วพูดว่า[11] “พระเจ้าองค์เจ้าชีวิตของพวกเราทั้งหลาย พระองค์สมควรที่จะได้รับคำสรรเสริญ ได้รับเกียรติและฤทธิ์อำนาจ เพราะพระองค์เป็นผู้สร้างทุกสิ่งทุกอย่าง และทุกสิ่งทุกอย่างได้ถูกสร้างขึ้น และมีขึ้นมาตามใจพระองค์” |
|
อิสยาห์ 29:13 |
องค์เจ้าชีวิตพูดว่า “คนพวกนี้เข้ามาใกล้เราด้วยปากของเขาเท่านั้น พวกเขาให้เกียรติเราด้วยริมฝีปากเท่านั้น แต่หัวใจของพวกเขาห่างไกลจากเรา และที่พวกเขามานมัสการเรานั้นก็เป็นแค่ทำตามกฎของมนุษย์ที่ท่องจำกันมาเท่านั้น |
|
สดุดี 29:1-11 |
[1] เพลงสดุดีของดาวิด ชาวสวรรค์ทั้งหลาย ให้สรรเสริญพระยาห์เวห์ สรรเสริญสง่าราศีและพละกำลังของพระยาห์เวห์เถิด[2] สรรเสริญพระยาห์เวห์สำหรับชื่ออันมีสง่าราศีของพระองค์ ให้ก้มกราบลงต่อหน้าพระยาห์เวห์ในวิหารอันสง่างามของพระองค์[3] เสียงของพระยาห์เวห์ดังกึกก้องอยู่เหนือน้ำ พระเจ้าแห่งสง่าราศีเปล่งเสียงฟ้าร้อง พระยาห์เวห์เปล่งเสียงฟ้าร้องอยู่เหนือมหาสมุทร[4] เสียงของพระยาห์เวห์นั้นทรงพลัง เสียงของพระยาห์เวห์ยิ่งใหญ่น่าเกรงขาม[5] เสียงของพระยาห์เวห์นั้นทำให้ต้นสนซีดาร์หักกระจุย พระยาห์เวห์หักโค่นต้นสนซีดาร์แห่งเลบานอน[6] พระองค์ทำให้เทือกเขาเลบานอน กระโดดโลดเต้นเหมือนกับพวกลูกวัว และทำให้ภูเขาเฮอร์มอน กระโดดดุจดังกระทิงหนุ่ม[7] เสียงของพระยาห์เวห์ ทำให้ฟ้าผ่า[8] เสียงของพระยาห์เวห์ ทำให้ทะเลทรายสั่นสะเทือน พระยาห์เวห์ทำให้ทะเลทรายคาเดช สั่นสะเทือน[9] เสียงของพระยาห์เวห์ทำให้พวกต้นโอ๊กสั่นไหว และทำให้ใบไม้ร่วงหมดป่า ขณะเดียวกันในวิหารของพระองค์ ทุกคนต่างกำลังพากันร้องตะโกนว่า “สง่าราศี”[10] พระยาห์เวห์นั่งปกครองอยู่เหนือน้ำที่ท่วมอยู่ พระยาห์เวห์จะนั่งปกครองอย่างกษัตริย์ตลอดไป[11] ขอให้พระยาห์เวห์มอบพละกำลังให้กับคนทั้งหลายของพระองค์ ขอพระยาห์เวห์อวยพรคนทั้งหลายของพระองค์ให้มีสันติสุข |
|
ฮีบรู 12:28-29 |
[28] เนื่องจากเรากำลังได้รับอาณาจักรที่ไม่มีอะไรสามารถมาสั่นสะเทือนมันได้ ก็ขอให้เรากตัญญูรู้คุณพระเจ้า นมัสการพระองค์อย่างเคารพยำเกรง ในทางที่พระเจ้าชอบใจ[29] เพราะพระเจ้าของเรานั้นเป็นไฟที่เผาผลาญ |
|
เนหะมีย์ 9:5-6 |
[5] แล้วเลวีพวกนี้ คือเยชูอา ขัดมีเอล บานี ฮาชับเนยาห์ เชเรบิยาห์ โฮดียาห์ เชบานิยาห์ และเปธาหิยาห์ ได้พูดขึ้นว่า “ลุกขึ้น และสรรเสริญพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่านเถิด ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้าของพวกเรา ขอพระองค์ได้รับการเชิดชูตลอดชั่วนิจนิรันดร์ถึงชั่วนิจนิรันดร์ ขอให้พวกเขาเชิดชูชื่ออันยิ่งใหญ่ของพระองค์ ซึ่งได้รับการยกย่องเหนือคำเชิดชูและคำสรรเสริญทั้งปวง[6] พระองค์เป็นพระเจ้า ข้าแต่พระยาห์เวห์ มีแต่พระองค์เท่านั้นที่เป็นพระเจ้า พระองค์เป็นผู้สร้างท้องฟ้า สวรรค์ชั้นสูงสุด และดวงดาวทั้งสิ้นในท้องฟ้า พระองค์สร้างโลกและทุกสิ่งบนโลก พระองค์สร้างทะเลและทุกอย่างที่อยู่ในทะเล พระองค์ให้ชีวิตกับทุกสิ่ง และพวกดวงดาวทั้งหลายบนท้องฟ้านมัสการพระองค์ |
|
สดุดี 86:9-10 |
[9] ข้าแต่องค์เจ้าชีวิต พระองค์สร้างคนทุกชาติทุกภาษา พวกเขาทุกคนจะมากราบอยู่ต่อหน้าพระองค์ และให้เกียรติกับชื่อของพระองค์[10] เพราะพระองค์นั้นยิ่งใหญ่และทำสิ่งต่างๆที่เหลือเชื่อ มีแต่พระองค์เท่านั้นที่เป็นพระเจ้า |
|
๒ พงศ์กษัตริย์ 17:38-39 |
[38] อย่าลืมข้อตกลงที่เราได้ทำไว้กับพวกเจ้า และอย่าไปนมัสการพระอื่นๆ[39] พวกเจ้าต้องนมัสการพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเจ้าเท่านั้น แล้วพระองค์จะช่วยพวกเจ้าให้รอดพ้นจากกำมือของศัตรูทั้งหมดของพวกเจ้า” |
|
สดุดี 100:1-5 |
[1] บทเพลงสดุดี แห่งการขอบพระคุณ ทั่วทั้งแผ่นดินโลกเอ๋ย โห่ร้องด้วยความยินดีให้กับพระยาห์เวห์[2] ให้นมัสการพระยาห์เวห์ด้วยความร่าเริง และเข้ามาร้องเพลงด้วยความชื่นบานต่อหน้าพระองค์[3] ให้รู้ไว้เถิดว่า พระยาห์เวห์ เป็นพระเจ้า พระองค์สร้างเราขึ้นมา เราจึงเป็นของพระองค์ เราเป็นชนชาติของพระองค์ เป็นแกะในทุ่งหญ้าของพระองค์[4] ให้ผ่านประตูทั้งหลายของพระองค์เข้ามาด้วยการขอบคุณ ให้เข้ามาในลานวิหารทั้งหลายของพระองค์ด้วยการสรรเสริญ ให้ขอบคุณพระองค์และสรรเสริญชื่อของพระองค์เถิด[5] เพราะพระยาห์เวห์นั้นดี ความรักมั่นคงของพระองค์อยู่ตลอดไป ความสัตย์ซื่อของพระองค์จะคงอยู่ทุกชั่วอายุ |
|
ดาเนียล 3:16-18 |
[16] ชัดรัค เมชาค และเอเบดเนโกตอบว่า “พวกเราไม่จำเป็นจะต้องแก้ตัวต่อพระองค์ในเรื่องนี้[17] ข้าแต่กษัตริย์ เพราะพระเจ้าของเราที่พวกเรารับใช้อยู่นี้มีจริง พระเจ้าสามารถช่วยพวกเราให้รอดพ้นจากเตาไฟที่ร้อนแรงนั้น และพระเจ้าจะช่วยให้พวกเรารอดพ้นจากเงื้อมมือของพระองค์ด้วย[18] แต่ถ้าหากว่าพระเจ้าจะไม่ช่วยพวกเรา ก็ขอให้พระองค์รู้ไว้เถิดว่า เราก็จะไม่นมัสการเทพเจ้าของพระองค์ และเราก็จะไม่ก้มลงกราบรูปปั้นทองคำที่พระองค์ตั้งขึ้น” |
|
วิวรณ์ 14:7 |
ทูตสวรรค์นั้นพูดด้วยเสียงอันดังว่า “ให้เกรงกลัวพระเจ้า และสรรเสริญพระองค์ เพราะเวลาของพระองค์ที่จะตัดสินคนทั้งหลายมาถึงแล้ว ดังนั้นให้กราบไหว้พระองค์ผู้สร้างฟ้าสวรรค์ แผ่นดินโลก ทะเล และแหล่งน้ำทั้งหลาย” |
|
Thai Bible (ERV) 2001 |
Copyright © 2001 by Bible League International |