มัทธิว ๑๒:๒๔ |
เมื่อพวกฟาริสีได้ยินก็พูดว่า “ที่คนนี้ไล่ผีออกได้ ก็เพราะใช้ฤทธิ์อำนาจของเบเอลเซบูล หัวหน้าผี” |
|
มาระโก ๓:๒๒ |
มีพวกครูสอนกฎปฏิบัติที่มาจากเมืองเยรูซาเล็มพูดกันว่า “เขาถูกเบเอลเซบูล หัวหน้าผีเข้าสิง ก็เลยมีฤทธิ์ขับไล่ผีอื่นๆไป” |
|
มัทธิว ๑๐:๒๕ |
ศิษย์น่าจะพอใจแล้ว ที่เป็นได้เหมือนครู และทาสก็น่าจะพอใจแล้ว ที่เป็นได้เหมือนเจ้านาย ถ้าขนาดเจ้าของบ้านยังถูกเรียกว่าซาตาน แล้วลูกบ้านจะไม่ถูกเรียกด้วยชื่อที่เลวร้ายกว่านั้นอีกหรือ |
|
มัทธิว ๑๒:๒๗ |
และถ้าเราใช้ฤทธิ์อำนาจของเบเอลเซบูลขับไล่พวกผีชั่วนั้น แล้วพวกของคุณใช้ฤทธิ์อำนาจของใครขับไล่พวกผีชั่วนั้นล่ะ ดังนั้น พวกศิษย์ของคุณเองจะพิสูจน์ว่า สิ่งที่คุณพูดเกี่ยวกับเรานั้นผิด |
|
ลูกา ๑๑:๑๕-๑๙ |
[๑๕] แต่บางคนพูดว่า “เขาใช้ฤทธิ์อำนาจของ เบเอลเซบูลหัวหน้าผี ขับไล่ผีชั่วพวกนั้นออกไป”[๑๖] บางคนก็เรียกให้พระองค์ทำเรื่องอัศจรรย์ให้ดู เพื่อพิสูจน์ว่าพระองค์มาจากพระเจ้าจริง[๑๗] พระเยซูรู้ถึงความคิดนั้น จึงตอบไปว่า “อาณาจักรที่แตกแยกกันจะถูกทำลาย และบ้านไหนที่ทะเลาะกันเองก็จะพังพินาศ[๑๘] ถ้าซาตานต่อสู้กับตัวมันเอง แล้วอาณาจักรของมันจะตั้งอยู่ได้อย่างไร คุณหาว่าเราใช้ฤทธิ์อำนาจของเบเอลเซบูล ขับไล่พวกผีชั่วนั้น[๑๙] และถ้าเราใช้ฤทธิ์อำนาจของเบเอลเซบูลขับไล่พวกผีชั่วนั้น แล้วพวกของคุณใช้ฤทธิ์อำนาจของใครขับไล่พวกผีชั่วนั้นล่ะ ดังนั้น พวกศิษย์ของคุณเองจะพิสูจน์ว่าสิ่งที่คุณพูดเกี่ยวกับเรานั้นผิด |
|
๒ พงศ์กษัตริย์ ๑:๑-๓ |
[๑] หลังจากที่กษัตริย์อาหับตายแล้ว ชาวโมอับลุกขึ้นกบฏต่ออิสราเอล[๒] วันหนึ่งกษัตริย์อาหัสยาห์อยู่บนดาดฟ้าห้องชั้นบนของเขา ในเมืองสะมาเรีย เขาพลัดตกทะลุไม้ระแนงลงมา และได้รับบาดเจ็บ เขาเรียกพวกผู้ส่งข่าวมา และบอกว่า “ไปถามพระบาอัลเซบูบที่เป็นพระของเมืองเอโครน ให้หน่อยว่า เราจะหายจากอาการบาดเจ็บนี้หรือไม่”[๓] แต่ทูตสวรรค์ของพระยาห์เวห์พูดกับเอลียาห์ชาวเมืองทิชบีว่า “ขึ้นไปพบกับผู้ส่งข่าวพวกนั้นของกษัตริย์แห่งเมืองสะมาเรีย และถามพวกเขาว่า ‘ในอิสราเอลไม่มีพระเจ้าแล้วหรือยังไง พวกเจ้าถึงต้องออกไปถามพระบาอัลเซบูบที่เป็นพระของเมืองเอโครน’ |
|
ลูกา ๑๑:๑๘ |
ถ้าซาตานต่อสู้กับตัวมันเอง แล้วอาณาจักรของมันจะตั้งอยู่ได้อย่างไร คุณหาว่าเราใช้ฤทธิ์อำนาจของเบเอลเซบูล ขับไล่พวกผีชั่วนั้น |
|
มาระโก ๓:๒๐-๓๐ |
[๒๐] จากนั้นพระองค์กลับบ้าน และฝูงชนมายืนออกันอยู่ที่นั่นอีก จนทำให้พระเยซูและศิษย์เอกทั้งสิบสองคนไม่มีเวลาแม้แต่จะกินข้าว[๒๑] เมื่อครอบครัวของพระเยซูได้ยินข่าวนี้ ก็พากันมาเพื่อจับตัวพระองค์กลับบ้าน เพราะคิดว่าพระองค์เป็นบ้าไปแล้ว[๒๒] มีพวกครูสอนกฎปฏิบัติที่มาจากเมืองเยรูซาเล็มพูดกันว่า “เขาถูกเบเอลเซบูล หัวหน้าผีเข้าสิง ก็เลยมีฤทธิ์ขับไล่ผีอื่นๆไป”[๒๓] พระเยซูจึงเรียกพวกเขามาใกล้ๆแล้วเล่าเรื่องเปรียบเทียบให้ฟังว่า “ซาตานจะขับไล่ตัวมันเองได้เหรอ[๒๔] ถ้าอาณาจักรไหนแตกแยกกันเอง อาณาจักรนั้นก็จะตั้งอยู่ต่อไปไม่ได้[๒๕] หรือถ้าครัวเรือนไหนแตกแยกกันเอง ครัวเรือนนั้นก็จะตั้งอยู่ไม่ได้[๒๖] เช่นเดียวกัน ถ้าซาตานต่อสู้กับตัวมันเอง มันก็ตั้งอยู่ไม่ได้ แต่ถึงจุดจบแล้ว[๒๗] จริงๆแล้ว ไม่มีใครบุกเข้าไปปล้นบ้านของคนที่แข็งแรงได้ นอกจากจะมัดเจ้าของบ้านที่แข็งแรงนั้นไว้ก่อนจึงจะปล้นข้าวของในบ้านได้[๒๘] เราจะบอกให้รู้ว่า พระเจ้าจะยกโทษให้กับความบาปทุกชนิดและคำหมิ่นประมาททุกอย่าง[๒๙] แต่พระเจ้าจะไม่มีวันยกโทษให้กับคนที่พูดหมิ่นประมาทพระวิญญาณบริสุทธิ์ คนที่ทำอย่างนั้นจะไม่ได้รับการอภัยตลอดไป”[๓๐] ที่พระองค์พูดอย่างนี้ก็เพราะมีบางคนกล่าวหาว่าพระองค์มีผีชั่วสิงอยู่ |
|
๒ พงศ์กษัตริย์ ๑:๑๖ |
เอลียาห์บอกกับกษัตริย์ว่า “พระยาห์เวห์พูดว่า ‘ในอิสราเอล ไม่มีพระเจ้าให้ท่านถามแล้วหรือยังไง ท่านถึงต้องส่งผู้ส่งข่าวพวกนั้นไปถามพระบาอัลเซบูบซึ่งเป็นพระของเมืองเอโครน’ เพราะท่านทำอย่างนี้ ท่านจะไม่มีวันได้ลุกออกจากเตียงที่ท่านกำลังนอนอยู่ แต่ท่านจะต้องตายแน่” |
|
ปฐมกาล ๑:๑ |
ในปฐมกาลนั้น เมื่อพระเจ้าสร้างแผ่นดินและท้องฟ้า |
|
มัทธิว ๙:๓๔ |
แต่พวกฟาริสีกลับพูดว่า “เขาใช้ฤทธิ์อำนาจของหัวหน้าผีขับไล่ผีออกไป” |
|
วิวรณ์ ๒๑:๒๐ |
ฐานที่ห้าเป็นหินควอตซ์ชนิดหนึ่งมีแถบสีขนานสลับกัน ฐานที่หกเป็นพลอยสีแดงจำพวกโกเมน ฐานที่เจ็ดเป็นควอทซ์สีเหลือง ฐานที่แปดเป็นนิลสีน้ำเงินเขียว ฐานที่เก้าเป็นบุษราคัมสีเหลืองน้ำตาล ฐานที่สิบเป็นคริสโซเฟรสซึ่งเป็นพลอยเขียวชนิดหนึ่ง ฐานที่สิบเอ็ดเป็นโกเมนสีส้มอมแดง และฐานที่สิบสองเป็นอเมธิสสีม่วง |
|
โยบ ๒:๑๑ |
ต่อมาเมื่อเพื่อนสามคนของโยบคือ เอลีฟัสชาวเทมาน บิลดัดชาวชูอาห์ และโศฟาร์ชาวนาอามาห์ ได้ยินเรื่องเลวร้ายทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับโยบ พวกเขานัดกันที่จะไปร่วมทุกข์และปลอบโยนโยบ พวกเขาต่างออกจากบ้านเรือนของตนมา |
|
๒ พงศ์กษัตริย์ ๑:๖ |
พวกเขาตอบว่า “มีชายคนหนึ่งมาพบพวกข้าพเจ้า และเขาพูดกับพวกข้าพเจ้าว่า ‘กลับไปหากษัตริย์ที่ส่งพวกเจ้ามาและให้บอกเขาว่า พระยาห์เวห์พูดไว้ว่าอย่างนี้ “ในอิสราเอล ไม่มีพระเจ้าแล้วหรือยังไง เจ้าถึงต้องส่งคนไปถามพระบาอัลเซบูบที่เป็นพระของเมืองเอโครน เพราะทำอย่างนี้ เจ้าจะไม่ได้ลุกขึ้นจากเตียงที่เจ้ากำลังนอนอยู่ แต่เจ้าจะต้องตายแน่”’” |
|
ยอห์น ๑:๑ |
ตอนเริ่มต้นก่อนที่โลกนี้จะเกิดขึ้นก็มีพระคำอยู่แล้ว พระคำนี้อยู่กับพระเจ้า และเป็นพระเจ้าด้วย |
|
ลูกา ๑๑:๑๙ |
และถ้าเราใช้ฤทธิ์อำนาจของเบเอลเซบูลขับไล่พวกผีชั่วนั้น แล้วพวกของคุณใช้ฤทธิ์อำนาจของใครขับไล่พวกผีชั่วนั้นล่ะ ดังนั้น พวกศิษย์ของคุณเองจะพิสูจน์ว่าสิ่งที่คุณพูดเกี่ยวกับเรานั้นผิด |
|
อพยพ ๖:๒๓ |
อาโรนได้นางเอลีเชบามาเป็นเมีย เอลีเชบาเป็นลูกสาวของอัมมีนาดับ และเป็นพี่น้องกับนาโชน นางได้คลอด นาดับ อาบีฮู เอเลอาซาร์ และอิธามาร์ |
|
ลูกา ๓:๑ |
จักรพรรดิทิเบริอัส ปกครองบ้านเมืองมาเป็นเวลาสิบห้าปีแล้ว ขณะนั้นปอนทัส ปีลาต เป็นผู้ว่าแคว้นยูเดีย เฮโรด ปกครองแคว้นกาลิลี ส่วนฟีลิป น้องชายของเฮโรด ปกครองแคว้นอิทูเรียกับแคว้นตราโคนิติส และลีซาเนียสปกครองแคว้นอาบีเลน |
|
ปฐมกาล ๑๐:๑๐ |
อาณาจักรของนิมโรดนั้น เริ่มขยายจากเมืองบาบิโลน เมืองเอเรก และเมืองอัคคัด ซึ่งเมืองทั้งสามนี้อยู่ในแผ่นดินชินาร์ |
|
ปฐมกาล ๑๔:๑ |
ในเวลานั้นกษัตริย์อัมราเฟลแห่งเมืองชินาร์ กษัตริย์อารีโอคแห่งเมืองเอลลาสาร์ กษัตริย์เคโดร์ลาโอเมอร์แห่งเมืองเอลาม และกษัตริย์ทิดาลแห่งเมืองโกยิม |
|
เฉลยธรรมบัญญัติ ๑๔:๕ |
กวาง เนื้อทราย กวางลายจุดตัวเมีย แพะป่า แกะป่า ละมั่ง และแกะภูเขา |
|
นางรูธ ๑:๒ |
ชายคนนี้ชื่อว่าเอลีเมเล็ค ภรรยาของเขาชื่อนาโอมี ลูกชายทั้งสองคนชื่อมาห์โลนและคิลิโอน ทั้งหมดเป็นชาวเอฟราธาห์ มาจากเมืองเบธเลเฮมในแผ่นดินยูดาห์ พวกเขาทั้งหมดมาอาศัยอยู่ในแผ่นดินโมอับ |
|
เนหะมีย์ ๑:๑ |
นี่คือคำพูดของเนหะมียาห์ ลูกชายของฮาคาลิยาห์ ในเดือนคิสเลฟ ปีที่ยี่สิบ แห่งรัชกาลของกษัตริย์อารทาเซอร์ซีส ขณะที่ผมอยู่ในเขตวังเมืองสุสา |
|
เอสเธอร์ ๑:๑ |
เรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นในสมัยของกษัตริย์อาหสุเอรัส พระองค์เป็นคนเดียวกับอาหสุเอรัสที่ครอบครองหนึ่งร้อยยี่สิบเจ็ดมณฑล ตั้งแต่ประเทศอินเดียไปจนถึงคูช |
|
๑ พงศ์กษัตริย์ ๑:๒ |
พวกคนรับใช้ของท่านจึงพูดกับท่านว่า “ให้พวกข้าพเจ้าไปหาหญิงสาวบริสุทธิ์สักคนมาอยู่ดูแลท่านผู้เป็นกษัตริย์เถิด นางจะได้นอนอยู่ข้างๆท่านเพื่อคอยทำให้ท่าน กษัตริย์ผู้เป็นเจ้านายของข้าพเจ้าอบอุ่น” |
|
วิวรณ์ ๑๖:๑๖ |
แล้ววิญญาณชั่วทั้งสามนี้ ก็ได้ระดมพวกกษัตริย์ทั้งหลาย ให้มาชุมนุมกันในสถานที่แห่งหนึ่ง ที่ในภาษาฮีบรูเรียกว่า “อารมาเกดโดน” |
|
อิสยาห์ ๓๔:๑๔ |
พวกแมวป่าก็จะมาเจอกับพวกหมาป่า พวกแพะป่าก็ส่งเสียงเรียกกัน พวกสัตว์กลางคืน ก็จะมาอยู่กันที่นั่นด้วย เพื่อหาที่พักผ่อน |
|
มัทธิว ๒๒:๓๗ |
พระเยซูจึงตอบว่า “‘รักองค์เจ้าชีวิตพระเจ้าของคุณอย่างสุดใจ สุดจิต และสิ้นสุดความคิด’ |
|
มาระโก ๓:๑-๖ |
[๑] พระเยซูเข้าไปในที่ประชุมชาวยิวอีก มีชายมือลีบคนหนึ่งอยู่ที่นั่น[๒] มีบางคนคอยจ้องจับผิดพระองค์อยู่ เขากำลังดูว่าพระองค์จะรักษาชายมือลีบคนนั้นในวันหยุดทางศาสนาหรือไม่[๓] พระองค์พูดกับคนมือลีบว่า “มาข้างหน้านี้หน่อย”[๔] แล้วพระองค์ก็ถามพวกเขาว่า “ตามกฎของวันหยุด เราควรจะทำดีหรือทำชั่ว ควรช่วยชีวิตหรือทำลายชีวิตดี” แต่พวกเขาเงียบ[๕] พระเยซูทั้งโกรธและเสียใจมากที่พวกเขามีจิตใจดื้อด้าน พระองค์มองไปรอบๆแล้วพูดกับคนมือลีบว่า “ยืดมือออกมา” ชายคนนั้นยืดมือออก แล้วมือของเขาก็หายเป็นปกติ[๖] เมื่อพวกฟาริสีเห็นอย่างนั้นก็รีบออกไปข้างนอกเพื่อวางแผนกับพรรคพวกของกษัตริย์เฮโรดหาทางฆ่าพระเยซู |
|
มาระโก ๑๐:๔๖-๕๒ |
[๔๖] พระเยซูและพวกศิษย์เดินทางมาถึงเมืองเยริโค และในระหว่างที่พระองค์และพวกศิษย์กำลังเดินทางออกจากเมืองเยริโคพร้อมกับชาวบ้านนั้น ก็มีคนตาบอดคนหนึ่งชื่อบารทิเมอัสซึ่งเป็นลูกชายของทิเมอัส นั่งขอทานอยู่ริมถนน[๔๗] เมื่อเขารู้ว่าเป็นพระเยซูชาวนาซาเร็ธ เขาก็ร้องตะโกนว่า “เยซู บุตรดาวิด สงสารผมด้วยครับ”[๔๘] หลายคนตวาดให้เขาเงียบ แต่เขายิ่งตะโกนดังขึ้น “เยซูบุตรดาวิดสงสารผมด้วยครับ”[๔๙] พระเยซูจึงหยุด และพูดว่า “เรียกเขามาสิ” พวกเขาก็เลยเรียกคนตาบอดนั้น และบอกเขาว่า “ดีใจได้แล้ว ลุกขึ้นสิ อาจารย์เรียกแกไปหาแล้ว”[๕๐] คนตาบอดนั้นก็โยนเสื้อคลุมทิ้งไปข้างๆแล้วกระโดดลุกขึ้นมาหาพระเยซู[๕๑] พระองค์ถามเขาว่า “อยากให้เราช่วยอะไร” คนตาบอดตอบว่า “ผมอยากมองเห็นครับอาจารย์”[๕๒] พระเยซูจึงพูดว่า “ไปเถอะ ความเชื่อของคุณทำให้คุณหายแล้ว” เขาก็มองเห็นทันที และติดตามพระองค์ไป |
|
ดาเนียล ๑:๗ |
อัชเปนัสตั้งชื่อใหม่ให้กับเด็กหนุ่มๆพวกนี้ เป็นภาษาบาบิโลน ดาเนียลมีชื่อใหม่ว่า เบลเทชัสซาร์ ฮานันยาห์ มีชื่อใหม่ว่าชัดรัค มิชาเอลมีชื่อใหม่ว่าเมชาค และอาซาริยาห์ มีชื่อใหม่ว่า เอเบดเนโก |
|
ผู้วินิจฉัย ๔:๖ |
นางส่งคนไปเรียกบาราคลูกชายของอาบีโนอัม ให้มาจากเมืองคาเดชในเขตแดนของนัฟทาลี นางพูดกับเขาว่า “พระยาห์เวห์ พระเจ้าของอิสราเอล ไม่ได้สั่งท่านหรือว่า ให้ยกพลไปตั้งอยู่ที่ภูเขาทาโบร์ และเกณฑ์คนหนึ่งหมื่นคนจากเผ่านัฟทาลีและจากเผ่าเศบูลุน |
|
๒ พงศ์กษัตริย์ ๑๙:๓๗ |
วันหนึ่ง ในขณะที่ท่านกำลังนมัสการอยู่ในวัดของนิสรคพระของท่านอยู่นั้น ลูกชายของท่านคืออัดรัมเมเลค และชาเรเซอร์ ก็ได้ฆ่าท่านด้วยดาบ และพวกเขาก็หนีไปที่แผ่นดินอารารัต แล้วลูกของท่านคือ เอสารฮัดโดน ก็ขึ้นเป็นกษัตริย์ของอัสซีเรียแทนท่าน |
|
เอเสเคียล ๒๓:๔ |
คนพี่ชื่อโอโฮลาห์ และคนน้องชื่อโอโฮลีบาห์ พวกนางกลายเป็นเมียเรา และคลอดลูกชายและลูกสาวให้กับเรา โอโฮลาห์มีอีกชื่อหนึ่งว่าสะมาเรีย โอโฮลีบาห์มีอีกชื่อหนึ่งว่าเยรูซาเล็ม |
|
เยเรมีย์ ๑:๑ |
นี่คือคำพูดของเยเรมียาห์ ลูกชายของฮิลคียาห์ เยเรมียาห์เป็นหนึ่งในนักบวชที่อาศัยอยู่ในเมืองอานาโธท เมืองนี้ตั้งอยู่ในดินแดนที่เป็นของเผ่าเบนยามิน |
|
ปฐมกาล ๑๐:๒๒ |
พวกลูกชายของเชม คือเอลาม อัสชูร อารปัคชาด ลูด และอารัม |
|
เอสรา ๔:๗ |
เรื่องแบบนี้ต่อมาก็เกิดขึ้นอีกในรัชกาลของกษัตริย์อารทาเซอร์ซีส เมื่อ บิชลาม มิทเรดาท และทาเบเอล รวมทั้งเพื่อนร่วมงานของพวกเขา ได้เขียนคำร้องต่อกษัตริย์อารทาเซอร์ซีสแห่งเปอร์เซีย ข้อความนั้นเขียนเป็นภาษาอารเมค และได้รับการแปลออกมา (เรื่องราวต่อไปนี้เขียนเป็นภาษาอารเมค ) |
|
มัทธิว ๑๐:๓ |
ฟีลิป บารโธโลมิว โธมัส มัทธิวคนเก็บภาษี ยากอบลูกของอัลเฟอัส ธัดเดอัส |
|
กิจการของอัครทูต ๒:๙ |
ซึ่งมีทั้งมาจาก ปารเธีย มีเดีย เอลาม เมโสโปเตเมีย ยูเดีย คัปปาโดเซีย ปอนทัส เอเชีย |
|
เลวีนิติ ๑๑:๕ |
ตัวไฮแรกซ์ เท้าไม่เป็นกีบแยกออก ถึงแม้จะเคี้ยวเอื้อง มันจึงไม่บริสุทธิ์สำหรับพวกเจ้า |
|
ปัญญาจารย์ ๑:๑ |
นี่คือคำสอนของอาจารย์ผู้ที่เป็นลูกของดาวิด และเป็นกษัตริย์ในเมืองเยรูซาเล็ม |
|
อพยพ ๓๐:๓๔ |
พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า “ให้เอาเครื่องเทศเหล่านี้ คือ กำยาน ชะมด มหาหิงคุ์ และกำยานบริสุทธิ์ ในสัดส่วนที่เท่าๆกัน |
|
โยบ ๙:๙ |
พระองค์ได้สร้างหมู่ดาวหมี หมู่ดาวไถ ดาวลูกไก่ และหมู่ดาวทิศใต้ |
|
กิจการของอัครทูต ๖:๕ |
ทุกคนพอใจกับข้อเสนอนี้ จึงเลือกสเทเฟน (ชายที่เต็มไปด้วยความเชื่อ และพระวิญญาณบริสุทธิ์) กับฟีลิป โปรโครัส นิคาโนร์ ทิโมน ปารเมนัสและนิโคเลาส์ชาวเมืองอันทิโอก ซึ่งก่อนหน้านี้เปลี่ยนมานับถือศาสนายิว |
|
วิวรณ์ ๑:๑๑ |
เสียงนั้นพูดว่า “ให้เขียนทุกสิ่งทุกอย่างที่เจ้าได้เห็นลงไปในหนังสือม้วน แล้วส่งไปให้หมู่ประชุมทั้งเจ็ดแห่งที่อยู่ในเมืองเอเฟซัส เมืองสเมอร์นา เมืองเปอร์กามัม เมืองธิยาทิรา เมืองซาร์ดิส เมืองฟิลาเดลเฟีย และเมืองเลาดีเซีย” |
|
๑ พงศ์กษัตริย์ ๘:๑๓ |
เราได้สร้างวิหารที่งามสง่าอย่างยิ่งสำหรับพระองค์ เป็นสถานที่ที่พระองค์จะได้มาอาศัยอยู่ตลอดไป” |
|
มาระโก ๓:๒๓ |
พระเยซูจึงเรียกพวกเขามาใกล้ๆแล้วเล่าเรื่องเปรียบเทียบให้ฟังว่า “ซาตานจะขับไล่ตัวมันเองได้เหรอ |
|
โยชูวา ๒๔:๑๕ |
ถ้าพวกท่านไม่อยากรับใช้พระยาห์เวห์ ก็ให้เลือกเอาในวันนี้ว่า พวกท่านจะรับใช้ใคร จะเป็นพวกพระที่บรรพบุรุษของท่านเคยรับใช้ตอนที่อยู่อีกฝากหนึ่งของแม่น้ำยูเฟรติส หรือจะเป็นพวกพระของคนอาโมไรต์ที่เคยอยู่ในแผ่นดินนี้ที่ท่านกำลังอาศัยอยู่ แต่ส่วนข้าพเจ้าและครอบครัวของข้าพเจ้า จะรับใช้พระยาห์เวห์” |
|
Thai Bible (ERV) 2001 |
Copyright © 2001 by Bible League International |