๒ ทิโมธี १:७ |
เพราะพระวิญญาณที่พระเจ้าให้กับเรานั้นไม่ทำให้เราขี้ขลาด แต่พระวิญญาณนี้ทำให้เราเต็มไปด้วยฤทธิ์อำนาจ ความรัก และการควบคุมตนเอง |
|
อิสยาห์ ๑:๑๗ |
ฝึกทำดี ให้ความยุติธรรมกับคนอื่น ช่วยกู้พวกที่ถูกกดขี่ข่มเหง ปกป้องสิทธิให้กับเด็กกำพร้า สู้คดีให้กับแม่ม่าย |
|
อิสยาห์ ๖:๘ |
และผมก็ได้ยินเสียงขององค์เจ้าชีวิตพูดว่า “เราจะส่งใครไปดี ใครจะไปแทนพวกเรา” แล้วผมก็ตอบว่า “ข้าพเจ้าอยู่นี่ครับ ส่งข้าพเจ้าไปเถิด” |
|
อิสยาห์ ๕๔:๑๗ |
แต่อาวุธที่คนสร้างขึ้นมาเพื่อสู้กับเจ้าจะไม่สามารถทำร้ายเจ้าได้เลย และทุกคนที่ฟ้องร้องเจ้าในศาล เจ้าก็จะสามารถโต้แย้งได้หมด นี่แหละคือมรดกของพวกผู้รับใช้ของพระยาห์เวห์ และนี่แหละคือชัยชนะที่เราให้กับพวกเขา” พระยาห์เวห์พูดไว้ว่าอย่างนั้น |
|
ยอห์น ๑๕:๑๓ |
ไม่มีความรักที่ยิ่งใหญ่กว่านี้อีกแล้ว คือการที่คนๆหนึ่งจะยอมตายเพื่อเพื่อนของตน |
|
โยชูวา ๑:๙ |
อย่าลืมว่าเราได้สั่งเจ้าให้เข้มแข็งและกล้าหาญไว้ อย่าได้หวาดกลัวหรือท้อถอย เพราะเรา ยาห์เวห์ พระเจ้าของเจ้า จะอยู่กับเจ้าในทุกที่ที่เจ้าไป” |
|
ลูกา ๑:๗๙ |
ส่องลงมาถึงคนที่อยู่ในความมืดและอยู่ในเงาของความตาย เพื่อนำพวกเราไปบนหนทางของความสงบสุข” |
|
ลูกา ๑๐:๑๙ |
เราให้อำนาจพวกคุณ ที่จะเหยียบย่ำงูร้ายและแมงป่อง และเราให้อำนาจเหนือศัตรูทั้งหมด ไม่มีอะไรทำร้ายพวกคุณได้ |
|
ลูกา ๕:๙ |
ที่พูดอย่างนั้นเพราะตัวเขาและเพื่อนๆรู้สึกตกตะลึงที่จับปลาได้มากขนาดนั้น |
|
สุภาษิต ๒๑:๑๕ |
การตัดสินที่ยุติธรรม ทำให้คนดีมีความสุข แต่เป็นความหายนะสำหรับพวกที่ทำชั่ว |
|
สุภาษิต ๒๔:๑๑ |
ให้ช่วยเหลือคนเหล่านั้นที่กำลังถูกนำไปฆ่า และอย่าได้ยั้งมือที่จะช่วยเหลือคนที่กำลังโซซัดโซเซไปให้เขาฆ่า |
|
สุภาษิต ๒๗:๑๗ |
เหล็กลับเหล็กให้คมได้ คนก็ลับเพื่อนของเขาได้ |
|
สดุดี ๑๐๑:๘ |
ทุกๆเช้า ข้าพเจ้าจะกำจัดคนชั่วทั้งหมดไปจากแผ่นดิน ข้าพเจ้าจะขับไล่คนชั่วพวกนั้นออกไปจากเมืองของพระยาห์เวห์ |
|
สดุดี ๘๒:๓-๔ |
[๓] “ให้ตัดสินคดีของคนยากจน และเด็กกำพร้าอย่างยุติธรรมด้วย แก้ต่างให้กับคนยากจนและคนขัดสนด้วย[๔] ช่วยกู้คนยากจนและคนขัดสนด้วย ช่วยพวกเขาให้รอดพ้นจากอุ้งมือของคนชั่ว |
|
ทิตัส ๓:๑-๒ |
[๑] คอยเตือนพวกเขาให้ยินยอมเชื่อฟังผู้ปกครองบ้านเมืองและผู้มีอำนาจด้วย เตือนให้พวกเขาพร้อมอยู่เสมอที่จะทำดีทุกอย่าง[๒] อย่าใส่ร้ายป้ายสีคนอื่น ให้อยู่อย่างสงบสุข และสุภาพอ่อนโยน เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กับทุกคน |
|
๑ เปโตร ๒:๑๓-๑๗ |
[๑๓] ให้คุณยอมอยู่ใต้อำนาจต่างๆที่มนุษย์ตั้งขึ้น เพื่อเห็นแก่องค์เจ้าชีวิต ไม่ว่าจะเป็นอำนาจของจักรพรรดิผู้มีอำนาจสูงสุด[๑๔] หรือเจ้าเมืองต่างๆที่จักรพรรดินั้นส่งมา เพื่อลงโทษคนทำผิดและยกย่องคนที่ทำดี[๑๕] เพราะพระเจ้าต้องการให้ชีวิตที่ดีงามของพวกคุณไปหุบปากคนโง่ที่พูดจาไร้สาระ[๑๖] ขอให้พวกคุณใช้ชีวิตอย่างอิสระ แต่อย่าใช้ความเป็นอิสระนั้นมาเป็นข้ออ้างบังหน้าเพื่อจะทำชั่ว แต่ให้ใช้ชีวิตสมกับที่เป็นทาสของพระเจ้าดีกว่า[๑๗] ให้เกียรติกับทุกๆคน ให้รักพี่น้องในพระคริสต์ ให้เกรงกลัวพระเจ้า และให้เกียรติกับกษัตริย์ด้วย |
|
สดุดี ๑๘:๓๗-๔๓ |
[๓๗] ข้าพเจ้าได้ไล่ตามจับศัตรูจนทัน และไม่ได้หันกลับจนได้ทำลายพวกมันจนหมดสิ้น[๓๘] ข้าพเจ้าบดขยี้พวกเขาจนพวกเขาไม่มีวันลุกขึ้นมาได้อีก พวกเขาล้มลงอยู่แทบเท้าของข้าพเจ้า[๓๙] พระองค์ทำให้ข้าพเจ้าแข็งแกร่งพร้อมออกรบ พระองค์ทำให้คนเหล่านั้นที่ลุกขึ้นมาต่อสู้กับข้าพเจ้าต้องยอมหมอบลงต่อข้าพเจ้า[๔๐] พระองค์ทำให้ศัตรูของข้าพเจ้าหันหลังหนีไป ข้าพเจ้าก็โค่นคนพวกนั้นที่เกลียดชังข้าพเจ้าลง[๔๑] พวกเขาร้องให้ช่วย แต่ไม่มีใครช่วย พวกเขาร้องต่อพระยาห์เวห์ แต่พระองค์ไม่ตอบพวกเขา[๔๒] ข้าพเจ้าบดขยี้พวกเขาแหลกละเอียดเหมือนฝุ่นที่ถูกลมพัดปลิวไป ข้าพเจ้าเหยียบย่ำพวกเขาเหมือนโคลนตามท้องถนน[๔๓] พระองค์ช่วยให้ข้าพเจ้ารอดพ้นจากกองทัพศัตรูที่เข้ามาโจมตี พระองค์ทำให้ข้าพเจ้าเป็นหัวหน้าของชนชาติต่างๆเหล่านั้น แม้แต่คนที่ข้าพเจ้าไม่รู้จัก ก็รับใช้ข้าพเจ้า |
|
โรม ๑๓:๑-๑๔ |
[๑] ให้ทุกคนยอมเชื่อฟังผู้มีอำนาจของรัฐบาล เพราะอำนาจทุกอย่างมาจากพระเจ้า และพระเจ้าเองเป็นผู้ที่แต่งตั้งผู้มีอำนาจเหล่านั้น[๒] ถ้าอย่างนั้น คนที่ขัดขืนต่ออำนาจนั้น ก็เท่ากับขัดขืนคำสั่งของพระเจ้า และคนที่ขัดขืนคำสั่งของพระเจ้า ก็จะต้องถูกลงโทษ[๓] คนที่ทำดีไม่กลัวผู้มีอำนาจพวกนั้นหรอก มีแต่คนที่ทำชั่วเท่านั้นที่กลัว ถ้าคุณไม่อยากกลัวผู้มีอำนาจพวกนั้นก็ให้ทำดี แล้วพวกเขาจะได้ชมเชยพวกคุณ[๔] เพราะพวกเขาเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้าที่มาทำงานช่วยพวกคุณ แต่ถ้าคุณทำเรื่องชั่วๆก็ให้กลัวไว้ เพราะเขาไม่ได้ถือดาบเอาไว้ขู่เฉยๆ เขาเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้า เป็นผู้แก้แค้นแทนพระเจ้า เพื่อลงโทษคนที่ทำชั่ว[๕] ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องเชื่อฟังรัฐบาล ไม่ใช่เพราะกลัวถูกลงโทษเท่านั้น แต่เพื่อใจจะไม่ฟ้องตัวเองว่าผิด[๖] นี่เป็นเหตุที่คุณต้องเสียภาษี เพราะผู้มีอำนาจพวกนี้เป็นคนรับใช้ของพระเจ้า ที่ดูแลเรื่องเหล่านี้เสมอ[๗] คุณเป็นหนี้อะไรกับใคร ก็ให้จ่ายคืนเขาไป เป็นหนี้ส่วยสาอากร ก็ให้จ่ายส่วยสาอากร เป็นหนี้ภาษี ก็ให้จ่ายภาษี คุณต้องยำเกรงใคร ก็ให้ยำเกรงคนนั้น คุณต้องให้เกียรติใคร ก็ให้เกียรติคนนั้น[๘] อย่าเป็นหนี้อะไรกับใครเลย นอกจากหนี้รักที่มีต่อกันและกัน เพราะคนที่รักคนอื่นก็ถือว่าได้ทำตามกฎครบถ้วนแล้ว[๙] ในกฎบัญญัติมีคำสั่งมากมายเช่น “อย่าเป็นชู้” “อย่าฆ่าคน” “อย่าขโมย” “อย่าโลภ” และยังมีคำสั่งอื่นๆอีก แต่ทั้งหมดนั้นก็สรุปได้ว่า “ให้รักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง”[๑๐] ความรักไม่ทำร้ายเพื่อนบ้าน เป็นเหตุที่ว่า ถ้ามีความรักก็ถือว่าได้ทำตามกฎครบถ้วนแล้ว[๑๑] ให้ทำอย่างที่บอกนี้ เพราะถึงเวลาตื่นได้แล้ว ความรอดของเรานั้นได้เข้ามาใกล้มากยิ่งกว่าตอนที่เราเพิ่งไว้วางใจใหม่ๆ[๑๒] กลางคืน ใกล้จะผ่านไป ตอนเช้า ใกล้จะมาแล้ว ดังนั้นขอให้เราเลิกทำในสิ่งที่เป็นของความมืด และให้สวมอาวุธที่เป็นของความสว่าง[๑๓] ทำตัวให้น่านับถือเหมือนคนที่ใช้ชีวิตอยู่ในกลางวัน ไม่เที่ยวมั่วสุม ไม่เสพสุราเมามาย ไม่ทำผิดทางเพศ ไม่มักมากในกาม ไม่ทะเลาะวิวาทและไม่อิจฉาริษยา[๑๔] แต่ให้สวมใส่พระเยซูคริสต์เจ้า และอย่าให้ความสนใจกับกิเลสตัณหาที่มาจากสันดานเลย |
|
สุภาษิต ๒๘:๑-๒๘ |
[๑] คนชั่วช้าวิ่งหนี ทั้งๆที่ไม่มีใครไล่ตาม แต่คนดีนั้นกล้าหาญเหมือนสิงโต[๒] ชนชาติที่มีแต่การกบฏก็เปลี่ยนผู้นำเป็นว่าเล่น แต่ชนชาติที่มีผู้นำที่หัวไวและรอบรู้ จะมั่นคง[๓] คนจนที่เอาเปรียบพวกคนจนด้วยกัน ก็เหมือนกับน้ำฝนที่ไหลเชี่ยวไม่เหลือผลผลิตไว้เลย[๔] คนที่ละทิ้งกฎของพระเจ้า ก็สรรเสริญคนชั่วช้า แต่คนที่เชื่อฟังกฎของพระเจ้า ก็ต่อต้านคนชั่ว[๕] คนชั่วไม่เข้าใจความยุติธรรม แต่คนเหล่านั้นที่แสวงหาพระยาห์เวห์ เข้าใจมันอย่างครบถ้วน[๖] จนแต่ซื่อสัตย์ ดีกว่ารวยแต่ขี้โกง[๗] ลูกที่ฉลาด ก็เชื่อฟังกฎของพระเจ้า แต่ลูกที่คบกับคนเสเพล นำความอับอายมาสู่พ่อของเขา[๘] คนที่ร่ำรวยจากการขูดรีดดอกเบี้ยสูงๆ สุดท้ายเงินนั้นก็จะตกไปเป็นของคนที่เมตตาคนจน[๙] ถ้าใครหันหูไปจากกฎของพระเจ้า พระองค์ก็จะขยะแขยง แม้แต่จะฟังคำอธิษฐานของเขา[๑๐] คนที่ชักจูงให้คนดีหลงไปในทางชั่ว คนนั้นก็จะตกลงไปในหลุมกับดักของตัวเอง แต่คนที่บริสุทธิ์นั้น ก็จะได้รับสิ่งที่ดีๆเป็นมรดก[๑๑] คนรวยมองว่าตัวเองฉลาด แต่คนยากจนที่หัวไว ก็จะมองคนรวยเหล่านั้นออกอย่างทะลุปรุโปร่ง[๑๒] เมื่อคนดีประสบความสำเร็จ ทุกคนก็ดีใจ แต่เมื่อคนชั่วมีอำนาจขึ้น ทุกคนพากันหลบซ่อน[๑๓] คนที่ปกปิดความผิดบาปของตัวเอง จะไม่เจริญรุ่งเรือง แต่คนที่สารภาพและละทิ้งบาปเหล่านั้น จะพบกับความเมตตา[๑๔] คนที่กลัวบาปก็น่านับถือจริงๆ แต่คนดื้อรั้นจะตกอยู่ในความทุกข์ยากลำบาก[๑๕] ผู้นำที่ชั่วช้าที่ปกครองอยู่เหนือชนชาติที่ยากจน เป็นเหมือนสิงโตที่คำรามหรือหมีที่จู่โจมเข้าใส่[๑๖] ผู้นำที่ขาดความเข้าใจคือเผด็จการจอมโหด แต่คนที่เกลียดชังเงินที่ได้มาอย่างผิดกฎหมาย ก็จะปกครองเป็นเวลายาวนาน[๑๗] อย่าไปช่วยคนที่มีความผิด เพราะฆ่าคนอื่น ปล่อยให้เขาหลบหนีไปจนตาย[๑๘] คนที่เดินในทางสัตย์ซื่อ จะปลอดภัย แต่คนที่เดินในทางคดโกง จะล้มลงอย่างฉับพลัน[๑๙] คนที่ทำงานในไร่นาของตน จะมีอาหารอย่างเหลือเฟือ แต่คนที่วิ่งไล่ตามสิ่งที่ไร้สาระ จะมีความยากจนอย่างเหลือเฟือ[๒๐] คนซื่อสัตย์จะได้รับพระพรอย่างเหลือล้น แต่คนที่คิดจะรวยทางลัด จะหนีไม่พ้นการลงโทษ[๒๑] การลำเอียงนั้นไม่ดี แต่ก็ยังมีบางคนยอมรับสินบนที่มีค่า แค่ขนมปังชิ้นเดียว[๒๒] คนโลภก็อยากรวยเร็วๆ แต่หารู้ไม่ว่า เขาจะยากจนในเร็วๆนี้[๒๓] คนที่ว่ากล่าวตักเตือนคนอื่น ทีหลังก็จะเป็นที่ชื่นชอบ มากกว่าคนที่แกล้งยกยอคนอื่น[๒๔] คนที่ขโมยของของพ่อแม่ แล้วบอกว่าไม่ผิด ก็ไม่ต่างจากพวกอันธพาล[๒๕] คนโลภมีแต่จะกวนให้ทะเลาะกัน แต่คนที่ไว้วางใจในพระยาห์เวห์จะสมบูรณ์พูนสุข[๒๖] คนที่ไว้วางใจในความคิดของตน คือคนโง่ แต่คนที่เดินตามสติปัญญาของครู จะปลอดภัย[๒๗] คนที่หยิบยื่นให้กับคนจน จะไม่มีวันจน แต่คนที่ปิดหูปิดตาจากคนจน จะถูกสาปแช่งมากมาย[๒๘] เมื่อคนชั่วช้ามีอำนาจขึ้น ผู้คนต่างก็พากันแอบซ่อน แต่เมื่อพวกเขาหมดอำนาจ คนดีจะกลับมามีอำนาจแทน |
|
ลูกา ๑๑:๒๑ |
เมื่อมีเจ้าของบ้านที่แข็งแรงและมีอาวุธครบมือเฝ้าบ้านอยู่ ทรัพย์สินของเขาก็ปลอดภัย |
|
มัทธิว ๕:๙ |
คนที่สร้างสันติ มีเกียรติจริงๆ เพราะพระเจ้าจะเรียกเขาว่าเป็นลูก |
|
Thai Bible (ERV) 2001 |
Copyright © 2001 by Bible League International |