มัทธิว ๒๔:๑๒ |
ความรักของคนจำนวนมากจะเยือกเย็นลงเพราะความอธรรมแผ่กว้างออกไป
|
ลูกา ๑๑:๔๒ |
“แต่วิบัติแก่ท่าน พวกฟาริสี เพราะว่าท่านถวายทศางค์ เป็นพวกสะระแหน่ ขมิ้น และพืชผักทุกชนิด แต่กลับละเว้นความยุติธรรมและความรักต่อพระเจ้า สิ่งเหล่านี้พวกท่านควรทำอยู่แล้ว แต่สิ่งอื่นๆ ก็ไม่ควรละเว้นด้วย
|
ยอห์น ๕:๔๒ |
แต่เรารู้ว่าพวกท่านไม่มีความรักของพระเจ้าในตัวท่าน
|
ยอห์น ๑๕:๙ |
พระบิดาทรงรักเราอย่างไร เราก็รักพวกท่านอย่างนั้น จงติดสนิทอยู่กับความรักของเรา
|
ยอห์น ๑๕:๑๐ |
ถ้าพวกท่านประพฤติตามบัญญัติของเรา ท่านก็จะติดสนิทอยู่กับความรักของเรา เหมือนอย่างที่เราประพฤติตามบัญญัติของพระบิดาและติดสนิทอยู่กับความรักของพระองค์
|
ยอห์น ๑๕:๑๓ |
ไม่มีใครมีความรักยิ่งใหญ่กว่านี้ คือการสละชีวิตเพื่อมิตรสหายของตน
|
ยอห์น ๑๗:๒๖ |
ข้าพระองค์ทำให้พวกเขารู้จักพระนามของพระองค์ และจะทำให้เขารู้อีก เพื่อความรักที่พระองค์ทรงรักข้าพระองค์นั้นจะอยู่ในเขา และข้าพระองค์อยู่ในเขา”
|
โรม ๑:๓๑ |
ไร้ปัญญา ไร้ความซื่อสัตย์ ไร้ความรักกัน ไร้ความเมตตา
|
โรม ๕:๕ |
และความหวังจะไม่ทำให้ผิดหวัง เพราะเหตุว่าความรักของพระเจ้าได้หลั่งเข้าสู่จิตใจของเรา โดยทางพระวิญญาณบริสุทธิ์ ซึ่งพระองค์ได้ประทานให้แก่เราแล้ว
|
โรม ๕:๘ |
แต่พระเจ้าทรงสำแดงความรักของพระองค์แก่เรา คือขณะที่เรายังเป็นคนบาปอยู่นั้น พระคริสต์สิ้นพระชนม์เพื่อเรา
|
โรม ๘:๓๕ |
แล้วใครจะให้เราขาดจากความรักของพระคริสต์ได้? จะเป็นความทุกข์ หรือความยากลำบาก หรือการเคี่ยวเข็ญ หรือการกันดารอาหาร หรือการเปลือยกาย หรือการถูกโพยภัย หรือการถูกคมดาบหรือ?
|
โรม ๘:๓๙ |
หรือซึ่งสูง หรือซึ่งลึก หรือสิ่งใดๆ อื่นที่ได้ทรงสร้างแล้วนั้น จะไม่สามารถทำให้เราขาดจากความรักของพระเจ้า ซึ่งมีอยู่ในพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราได้
|
โรม ๑๒:๙ |
ขอให้ความรักมาจากใจจริง จงเกลียดชังสิ่งที่ชั่ว จงยึดมั่นในสิ่งที่ดี
|
โรม ๑๓:๘ |
อย่าเป็นหนี้อะไรใครเลย นอกจากความรักซึ่งมีต่อกัน เพราะว่าผู้ที่รักคนอื่น ก็ได้ปฏิบัติตามธรรมบัญญัติครบถ้วนแล้ว
|
โรม ๑๓:๑๐ |
ความรักไม่ทำอันตรายต่อเพื่อนบ้านเลย เพราะฉะนั้นความรักจึงเป็นสิ่งที่ทำให้ธรรมบัญญัติสำเร็จอย่างครบถ้วน
|
โรม ๑๔:๑๕ |
ถ้าพี่น้องเป็นทุกข์เพราะอาหารที่ท่านกิน ท่านก็ไม่ได้ประพฤติตามทางแห่งความรักเสียแล้ว พระคริสต์สิ้นพระชนม์เพื่อใคร ก็อย่าให้คนนั้นพินาศเพราะอาหารที่ท่านกินเลย
|
โรม ๑๕:๓๐ |
พี่น้องทั้งหลาย โดยพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา และโดยความรักของพระวิญญาณ ข้าพเจ้าวิงวอนขอให้ท่านร่วมอธิษฐานต่อพระเจ้าด้วยใจกระตือรือร้นเพื่อข้าพเจ้า
|
๑ โครินธ์ ๔:๒๑ |
พวกท่านต้องการสิ่งไหน? จะให้ข้าพเจ้าถือไม้เรียวมาหาท่าน หรือจะให้ข้าพเจ้ามาด้วยความรัก และด้วยใจสุภาพอ่อนโยน?
|
๑ โครินธ์ ๗:๓๖ |
แต่ถ้าชายใดคิดว่าไม่อาจจะปฏิบัติอย่างสมควรต่อคู่หมั้น ของเขา มีความรักร้อนแรง และต้องทำอย่างใดอย่างหนึ่งก็ให้เขาทำตามความต้องการ คือให้เขาแต่งงานเสียเพราะไม่เป็นความผิด
|
๑ โครินธ์ ๘:๑ |
เรื่องของอาหารที่บูชารูปเคารพนั้น เราทั้งหลายทราบแล้วว่า “ทุกคนต่างก็มีความรู้” ความรู้นั้นทำให้ลำพอง แต่ความรักเสริมสร้างขึ้น
|
๑ โครินธ์ ๑๓:๑ |
แม้ข้าพเจ้าจะพูดภาษาแปลกๆ ที่เป็นภาษามนุษย์หรือทูตสวรรค์ได้ แต่ไม่มีความรัก ข้าพเจ้าเป็นเหมือนฆ้องหรือฉาบที่กำลังส่งเสียง
|
๑ โครินธ์ ๑๓:๒ |
แม้ข้าพเจ้าจะเผยพระวจนะได้ จะรู้ความล้ำลึกทุกอย่างและมีความรู้ทั้งสิ้น และแม้จะมีความเชื่อมากยิ่งที่จะย้ายภูเขาไปได้ แต่ไม่มีความรัก ข้าพเจ้าก็ไม่มีค่าอะไรเลย
|
๑ โครินธ์ ๑๓:๓ |
แม้ข้าพเจ้าจะบริจาคสิ่งของของข้าพเจ้าทุกอย่างหรือยอมให้เอาตัวไปเผาไฟ แต่ไม่มีความรัก ก็จะไม่เป็นประโยชน์กับข้าพเจ้า
|
๑ โครินธ์ ๑๓:๔ |
ความรักนั้นก็อดทนนานและมีใจปรานี ความรักไม่อิจฉา ไม่อวดตัว ไม่หยิ่งผยอง
|
๑ โครินธ์ ๑๓:๗ |
ความรักทนได้ทุกอย่าง เชื่ออยู่เสมอ มีความหวังและความทรหดอดทนอยู่เสมอ
|
๑ โครินธ์ ๑๓:๘ |
ความรักไม่มีวันเสื่อมสูญ แม้การเผยพระวจนะก็จะเสื่อมสลายไป แม้การพูดภาษาแปลกๆ ก็จะเลิกพูดกัน แม้วิชาความรู้ก็จะเสื่อมสลายไป
|
๑ โครินธ์ ๑๓:๑๓ |
และบัดนี้ ทั้งสามสิ่งนี้ยังดำรงอยู่ คือความเชื่อ ความหวัง และความรัก แต่ความรักนั้นใหญ่ที่สุดในสามสิ่งนี้
|
๑ โครินธ์ ๑๔:๑ |
จงมุ่งหาความรัก และขวนขวายของประทานจากพระวิญญาณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเผยพระวจนะ
|
๑ โครินธ์ ๑๖:๑๔ |
จงทำทุกสิ่งด้วยความรัก
|
๑ โครินธ์ ๑๖:๒๔ |
ความรักของข้าพเจ้าอยู่กับพวกท่านทุกคนในพระเยซูคริสต์
|
๒ โครินธ์ ๑:๕ |
เพราะความรักของพระคริสต์มากท่วมท้นเราอย่างไร การหนุนใจของพระคริสต์ก็มากท่วมท้นเราอย่างนั้น
|
๒ โครินธ์ ๒:๔ |
เพราะว่าข้าพเจ้าเขียนจดหมายถึงพวกท่านด้วยความยากลำบากและระทมใจอย่างยิ่งรวมทั้งน้ำตาไหลมากมาย ไม่ใช่เพื่อจะทำให้พวกท่านทุกข์โศก แต่เพื่อให้ท่านรู้จักความรักมากมายที่ข้าพเจ้ามีต่อท่านทั้งหลาย
|
๒ โครินธ์ ๒:๘ |
ดังนั้นข้าพเจ้าขอร้องพวกท่านให้ยืนยันความรักต่อคนนั้นใหม่
|
๒ โครินธ์ ๕:๑๔ |
เพราะว่าความรักของพระคริสต์ควบคุมเราอยู่ เรามั่นใจเช่นนี้ว่ามีผู้หนึ่งสิ้นพระชนม์เพื่อทุกคน ดังนั้นทุกคนจึงตายแล้ว
|
๒ โครินธ์ ๖:๖ |
โดยความบริสุทธิ์ ความรู้ ความอดทน และความกรุณา โดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ โดยความรักอย่างจริงใจ
|
๒ โครินธ์ ๗:๑๕ |
และความรักที่เขามีต่อพวกท่านก็เพิ่มพูนขึ้น เมื่อเขาระลึกถึงความเชื่อฟังของพวกท่าน และการที่พวกท่านทุกคนต้อนรับเขาด้วยความเกรงกลัวและตัวสั่น
|
๒ โครินธ์ ๘:๗ |
ดังนั้นเมื่อพวกท่านมีทุกสิ่งอย่างเหลือล้น คือความเชื่อ ฝีปาก ความรู้ ความกระตือรือร้น และความรักที่เรามีต่อพวกท่าน ท่านทั้งหลายก็จงมีคุณความดีนี้อย่างเหลือล้นด้วย
|
๒ โครินธ์ ๘:๘ |
ข้าพเจ้าไม่ได้พูดเป็นคำสั่ง แต่นำเรื่องความกระตือรือร้นของคนอื่นๆ มาทดสอบความรักของท่านทั้งหลายว่ามีความจริงใจหรือไม่
|
๒ โครินธ์ ๘:๒๔ |
เพราะฉะนั้นจงสำแดงความรักของท่านและสิ่งที่เราได้อวดเกี่ยวกับท่านให้พวกเขาเห็น และสำแดงต่อหน้าคริสตจักรทั้งหลายด้วย
|
๒ โครินธ์ ๑๓:๑๑ |
สุดท้ายนี้ พี่น้องทั้งหลาย ขอลาก่อน จงกลับสู่สภาพดีดังเดิม จงฟังคำขอร้องของข้าพเจ้า จงเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน จงอยู่ร่วมกันอย่างสันติ และพระเจ้าแห่งความรักและสันติสุขจะสถิตกับท่านทั้งหลาย
|
๒ โครินธ์ ๑๓:๑๓ |
ขอให้พระคุณของพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้า ความรักของพระเจ้า และการมีส่วนกันที่มาจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ จงดำรงอยู่กับท่านทั้งหลายทุกคนเถิด
|
กาลาเทีย ๕:๖ |
เพราะว่าในพระเยซูคริสต์นั้น การเข้าสุหนัตหรือไม่เข้าสุหนัตไม่เกิดประโยชน์อันใด แต่ความเชื่อซึ่งแสดงออกเป็นการกระทำด้วยความรักนั้นสำคัญ
|
กาลาเทีย ๕:๑๓ |
พี่น้องทั้งหลาย เพราะว่าท่านถูกเรียกให้มีเสรีภาพ ขอแต่เพียงอย่าถือโอกาสใช้เสรีภาพเพื่อทำตามเนื้อหนัง แต่จงรับใช้กันและกันด้วยความรักเถิด
|
กาลาเทีย ๕:๒๒ |
ส่วนผลของพระวิญญาณนั้น คือความรัก ความยินดี สันติสุข ความอดทน ความกรุณา ความดี ความซื่อสัตย์
|
เอเฟซัส ๑:๕ |
พระองค์ทรงกำหนดเราไว้ล่วงหน้าด้วยความรัก ให้เป็นบุตรของพระองค์โดยทางพระเยซูคริสต์ ตามความชอบพระทัยและพระประสงค์ของพระองค์
|
เอเฟซัส ๑:๑๕ |
เพราะเหตุนี้ เมื่อข้าพเจ้าได้ยินเกี่ยวกับความเชื่อของพวกท่านในพระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้า และความรักของท่านต่อธรรมิกชนทั้งหมด
|
เอเฟซัส ๒:๔ |
แต่พระเจ้าทรงเปี่ยมด้วยพระเมตตา พระองค์ทรงรักเราโดยความรักอันใหญ่หลวงของพระองค์
|
เอเฟซัส ๓:๑๗ |
ให้พระคริสต์ประทับในใจของท่านโดยทางความเชื่อ ให้ท่านได้หยั่งรากและตั้งมั่นอยู่ในความรัก
|
เอเฟซัส ๓:๑๙ |
คือให้ซาบซึ้งในความรักของพระคริสต์ซึ่งเกินความรู้ เพื่อพวกท่านจะได้รับความบริบูรณ์ของพระเจ้าอย่างเต็มเปี่ยม
|
เอเฟซัส ๔:๒ |
คือจงถ่อมใจและมีความสุภาพอ่อนโยนอยู่เสมอ จงอดทน จงอดกลั้นต่อกันและกันด้วยความรัก
|
เอเฟซัส ๔:๑๕ |
แต่ให้เรายึดถือ ความจริงด้วยความรัก เพื่อจะเจริญขึ้นในทุกด้านสู่พระองค์ผู้เป็นศีรษะคือพระคริสต์
|
เอเฟซัส ๔:๑๖ |
เนื่องจากพระองค์นี้เอง ร่างกายทั้งหมดจึงได้รับการเชื่อมและประสานเข้าด้วยกันโดยทุกๆ ข้อต่อที่ประทานมานั้น และเมื่อแต่ละส่วนทำงานตามหน้าที่แล้ว ก็ทำให้ร่างกายเจริญและเสริมสร้างตนเองขึ้นด้วยความรัก
|
เอเฟซัส ๕:๒ |
และจงดำเนินชีวิตในความรักเช่นเดียวกับที่พระคริสต์ทรงรักเรา และประทานพระองค์เองเพื่อเรา ให้เป็นเครื่องถวายและเครื่องบูชาที่ทรงโปรดปรานแด่พระเจ้า
|
เอเฟซัส ๖:๒๓ |
ขอให้พี่น้องได้รับสันติสุข และความรักกับความเชื่อ จากพระเจ้าพระบิดาและจากพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้า
|
เอเฟซัส ๖:๒๔ |
ขอพระคุณดำรงอยู่กับทุกคนที่รักพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราด้วยความรักที่ไม่มีวันเสื่อมคลาย
|
ฟีลิปปี ๑:๙ |
และข้าพเจ้าอธิษฐานว่าขอให้ความรักของท่านทวียิ่งๆ ขึ้นพร้อมกับความรู้และวิจารณญาณทุกด้าน
|
ฟีลิปปี ๑:๑๖ |
ฝ่ายหนึ่งประกาศด้วยความรัก โดยรู้ว่าข้าพเจ้าได้รับการแต่งตั้งไว้ให้กล่าวปกป้องข่าวประเสริฐนั้น
|
ฟีลิปปี ๒:๑ |
เพราะฉะนั้น ในเมื่อมีความชูใจในความสัมพันธ์กับพระคริสต์ มีการปลอบโยนจากความรัก มีการสามัคคีธรรมกันจากพระวิญญาณ และมีความเห็นใจกันและความเมตตากรุณา
|
ฟีลิปปี ๒:๒ |
ก็ขอให้ท่านทั้งหลายทำให้ความยินดีของข้าพเจ้าเต็มเปี่ยม ด้วยการมีความคิดอย่างเดียวกัน มีความรักอย่างเดียวกัน มีจิตใจและความคิดเป็นหนึ่งเดียวกัน
|
โคโลสี ๑:๔ |
เพราะเราได้ยินเรื่องความเชื่อของท่านทั้งหลายในพระเยซูคริสต์ และเรื่องความรักที่พวกท่านมีต่อธรรมิกชนทุกคน
|
โคโลสี ๑:๘ |
และเขาได้แจ้งให้เราทราบถึงความรักของท่านทั้งหลายในพระวิญญาณ
|
โคโลสี ๒:๒ |
เพื่อว่าพวกเขาจะได้รับการหนุนใจและผูกพันกันในความรัก ซึ่งจะทำให้เขาเปี่ยมด้วยความมั่นใจอย่างบริบูรณ์ในด้านความเข้าใจ และทำให้พวกเขารู้ความล้ำลึกของพระเจ้า คือพระคริสต์
|
โคโลสี ๓:๑๔ |
แล้วจงสวมความรักทับสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด ความรักผูกพันทุกสิ่งไว้อย่างสมบูรณ์
|
๑ เธสะโลนิกา ๑:๓ |
ต่อพระพักตร์พระเจ้าพระบิดาของเรา คือรำลึกถึงความเชื่อของท่านที่แสดงออกเป็นการกระทำ ถึงความรักที่ท่านเต็มใจทำงานหนัก และถึงความทรหดอดทนซึ่งเกิดจากความหวังในพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา
|
๑ เธสะโลนิกา ๓:๖ |
เดี๋ยวนี้ ทิโมธีจากพวกท่านมาถึงเราแล้ว และแจ้งข่าวดีเรื่องความเชื่อและความรักของท่าน และเขาบอกว่าท่านระลึกถึงเราอยู่เสมอด้วยความหวังดี และปรารถนาจะเห็นเราเหมือนอย่างเราปรารถนาจะเห็นท่านเหมือนกัน
|
๑ เธสะโลนิกา ๕:๘ |
แต่เมื่อเราเป็นของเวลากลางวันแล้วก็ให้เรามีสติ จงสวมความเชื่อกับความรักเป็นเกราะป้องกันอก และสวมความหวังที่จะได้ความรอดเป็นหมวกเหล็ก
|
๒ เธสะโลนิกา ๑:๓ |
พี่น้องทั้งหลาย เราต้องขอบพระคุณพระเจ้าเพราะท่านอยู่เสมอ ซึ่งเป็นเรื่องสมควรยิ่งเพราะความเชื่อของท่านจำเริญขึ้น และความรักของท่านทุกคนที่มีต่อกันทวีขึ้นด้วย
|
๒ เธสะโลนิกา ๓:๕ |
ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงนำใจของท่านทั้งหลายให้เข้าถึงความรักซึ่งมาจากพระเจ้า และถึงความทรหดอดทนซึ่งมาจากพระคริสต์
|
๑ ทิโมธี ๑:๕ |
แต่เป้าหมายของการกำชับนั้นก็คือ ความรักที่มาจากใจที่บริสุทธิ์ จากมโนธรรมที่ดี และจากความเชื่อที่จริงใจ
|
๑ ทิโมธี ๑:๑๔ |
แต่พระคุณขององค์พระผู้เป็นเจ้าของเรานั้นมีเหลือล้นสำหรับข้าพเจ้า รวมทั้งความเชื่อและความรักซึ่งมีอยู่ในพระเยซูคริสต์
|
๑ ทิโมธี ๒:๑๕ |
แต่ถึงกระนั้นเธอก็จะได้รับความรอดในการมีบุตร ถ้าหากพวกเธอดำรงอยู่ในความเชื่อ ความรัก และความบริสุทธิ์ ด้วยความสงบเสงี่ยม
|
๑ ทิโมธี ๔:๑๒ |
อย่าให้ใครหมิ่นประมาทความอ่อนวัยของท่าน แต่จงเป็นแบบอย่างแก่บรรดาผู้เชื่อ ทั้งในด้านวาจาและการประพฤติ ทั้งในด้านความรัก ความเชื่อ และความบริสุทธิ์
|
๑ ทิโมธี ๖:๑๑ |
แต่ท่านผู้เป็นคนของพระเจ้า จงหลีกหนีจากสิ่งเหล่านี้ และจงใฝ่หาความชอบธรรม ทางพระเจ้า ความเชื่อ ความรัก ความทรหดอดทน และความสุภาพอ่อนโยน
|
๒ ทิโมธี ๑:๗ |
เพราะว่าพระเจ้าไม่ได้ประทานใจที่ขลาดกลัวแก่เรา แต่ประทานใจที่ประกอบด้วยฤทธานุภาพ ความรัก และการบังคับตนเองแก่เรา
|
๒ ทิโมธี ๑:๑๓ |
จงประพฤติตามแบบอย่างของคำสอนที่ถูกต้องที่ท่านได้ยินจากข้าพเจ้า ด้วยความเชื่อและความรักซึ่งมีอยู่ในพระเยซูคริสต์
|
๒ ทิโมธี ๒:๒๒ |
เพราะฉะนั้นท่านจงหลีกหนีจากตัณหาของคนหนุ่ม และจงมุ่งมั่นในความชอบธรรม ความเชื่อ ความรัก และสันติสุขร่วมกับพวกที่ออกพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยใจบริสุทธิ์
|
๒ ทิโมธี ๓:๑๐ |
แต่ท่านก็ได้ดำเนินตามข้าพเจ้าในด้านคำสอน พฤติกรรม เป้าหมายชีวิต ความเชื่อ ความอดทน ความรัก ความทรหดอดทน
|
ทิตัส ๒:๒ |
สอนบรรดาผู้ชายสูงอายุให้รู้จักประมาณตน มีความน่านับถือ มีสติสัมปชัญญะ มีความเชื่อที่ถูกต้อง มีความรัก และความทรหดอดทน
|
ทิตัส ๓:๔ |
แต่เมื่อความดีเลิศและความรักของพระเจ้า พระผู้ช่วยให้รอดของเรามาปรากฏ
|
ฟีเลโมน ๑:๕ |
เพราะข้าพเจ้าได้ยินเรื่องความรักและความเชื่อของท่านที่มีต่อพระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้า และต่อธรรมิกชนทุกคน
|
ฟีเลโมน ๑:๗ |
น้องเอ๋ย ความรักของท่านทำให้ข้าพเจ้ามีความยินดีและได้รับการชูใจอย่างมาก เพราะจิตใจของพวกธรรมิกชนแช่มชื่นขึ้นเนื่องจากท่าน
|
ฟีเลโมน ๑:๙ |
แต่โดยความรัก ข้าพเจ้าจะขอร้องท่านดีกว่า ข้าพเจ้าเปาโลผู้เป็นทูตของพระเยซูคริสต์ และขณะนี้ถูกคุมขังเนื่องจากการประกาศพระองค์
|
ฮีบรู ๖:๑๐ |
เพราะว่าพระเจ้าไม่ทรงอธรรมที่จะทรงลืมการงานของพวกท่านและความรักที่พวกท่านแสดงต่อพระนามของพระองค์ คือการปรนนิบัติพวกธรรมิกชนนั้น ดังที่พวกท่านยังปรนนิบัติอยู่
|
ฮีบรู ๑๐:๒๔ |
และขอให้เราพิจารณาดูเพื่อจะปลุกใจกันและกันให้มีความรักและทำความดี
|
ฮีบรู ๑๓:๑ |
จงให้ความรักฉันพี่น้องมีอยู่ต่อกันเสมอไป
|
๑ เปโตร ๔:๘ |
เหนือสิ่งอื่นใดก็คือ จงรักกันและกันให้มาก เพราะความรักให้อภัยบาปมากมายได้
|
๑ เปโตร ๕:๑๔ |
จงทักทายกันด้วยธรรมเนียมจูบ อันแสดงความรักต่อกัน ขอสันติสุขดำรงอยู่กับพวกท่านที่อยู่ในพระคริสต์เถิด
|
๒ เปโตร ๑:๗ |
เอาความรักฉันพี่น้องเพิ่มความยำเกรงพระเจ้า และเอาความรักเพิ่มความรักฉันพี่น้อง
|
๑ ยอห์น ๒:๕ |
แต่ผู้ที่ประพฤติตามพระวจนะของพระองค์ ความรักของพระเจ้าก็บริบูรณ์อยู่ในผู้นั้นอย่างแท้จริง เพราะเหตุนี้แหละเราจึงรู้ว่าเราอยู่ในพระองค์
|
๑ ยอห์น ๒:๑๕ |
อย่ารักโลกหรือสิ่งของในโลก ถ้าใครรักโลก ความรักของพระบิดาไม่ได้อยู่ในผู้นั้น
|
๑ ยอห์น ๓:๑ |
ลองคิดดู พระบิดาได้ประทานความรักแก่เราเพียงไรที่เราได้ชื่อว่าเป็นลูกของพระเจ้า และเราก็เป็นอย่างนั้น เหตุที่ชาวโลกไม่รู้จักเรา ก็เพราะเขาไม่รู้จักพระองค์
|
๑ ยอห์น ๓:๑๖ |
เช่นนี้แหละเราจึงรู้จักความรัก โดยที่พระองค์ได้ยอมสละพระชนม์ของพระองค์เพื่อเรา และเราก็ควรจะสละชีวิตของเราเพื่อพี่น้อง
|
๑ ยอห์น ๓:๑๗ |
แต่ถ้าใครมีทรัพย์สมบัติในโลกนี้ และเห็นพี่น้องของตนขัดสนแล้วยังไม่เปิดใจช่วยเขา ความรักของพระเจ้าจะดำรงอยู่ในคนนั้นได้อย่างไร?
|
๑ ยอห์น ๔:๗ |
ท่านที่รักทั้งหลาย ขอให้เรารักกันและกัน เพราะว่าความรักมาจากพระเจ้า และทุกคนที่รักก็เกิดจากพระเจ้า และรู้จักพระเจ้า
|
๑ ยอห์น ๔:๘ |
ผู้ที่ไม่รักก็ไม่รู้จักพระเจ้า เพราะว่าพระเจ้าทรงเป็นความรัก
|
๑ ยอห์น ๔:๙ |
ความรักของพระเจ้าก็เป็นที่ประจักษ์แก่เราโดยข้อนี้ คือพระเจ้าทรงใช้พระบุตรองค์เดียวของพระองค์เข้ามาในโลก เพื่อเราจะได้ดำรงชีวิตโดยพระบุตร
|
๑ ยอห์น ๔:๑๐ |
ความรักที่ข้าพเจ้าพูดถึงนี้ไม่ใช่ที่เรารักพระเจ้า แต่ที่พระองค์ทรงรักเรา และทรงใช้พระบุตรของพระองค์มา เพื่อเป็นเครื่องบูชาลบบาปของเรา
|
๑ ยอห์น ๔:๑๒ |
ไม่มีใครเคยเห็นพระเจ้า ถ้าเรารักกันและกัน พระเจ้าก็สถิตอยู่ในเรา และความรักของพระองค์ก็สมบูรณ์อยู่ในเรา
|
๑ ยอห์น ๔:๑๖ |
ฉะนั้นเราจึงรู้ และวางใจในความรักที่พระเจ้าทรงมีต่อเรา พระเจ้าทรงเป็นความรัก และผู้ที่อยู่ในความรักก็อยู่ในพระเจ้า และพระเจ้าก็ทรงอยู่ในคนนั้น
|
๑ ยอห์น ๔:๑๗ |
ความรักของเราจึงสมบูรณ์ในข้อนี้ เพื่อเราจะมีความมั่นใจในวันพิพากษา เพราะว่าพระองค์ทรงเป็นเช่นไร เราในโลกนี้ก็เป็นเช่นนั้น
|
๑ ยอห์น ๔:๑๘ |
ในความรักนั้นไม่มีความกลัว แต่ความรักที่สมบูรณ์นั้นก็ขับไล่ความกลัวออกไปเสีย เพราะความกลัวเกี่ยวข้องกับการลงโทษ และผู้ที่กลัวก็ยังไม่มีความรักที่สมบูรณ์
|
๑ ยอห์น ๕:๓ |
เพราะว่าความรักต่อพระเจ้าเป็นอย่างนี้ คือเมื่อเราประพฤติตามพระบัญญัติของพระองค์ และพระบัญญัติของพระองค์นั้นไม่เป็นภาระหนักเกินไป
|
๒ ยอห์น ๑:๓ |
พระคุณ พระเมตตา และสันติสุขจากพระเจ้าพระบิดา และจากพระเยซูคริสต์พระบุตรของพระบิดา จะดำรงอยู่กับเราในความจริงและในความรัก
|
๒ ยอห์น ๑:๖ |
และความรักนั้นก็คือการที่เราประพฤติตามพระบัญญัติของพระองค์ ตามที่ท่านทั้งหลายได้ยินได้ฟังมาตั้งแต่เริ่มแรก จงประพฤติตามนั้น
|
๓ ยอห์น ๑:๖ |
แขกเหล่านั้นเป็นพยานเรื่องความรักของท่านต่อหน้าคริสตจักรแล้ว ถ้าท่านจะช่วยจัดส่งพวกเขาให้สมกับที่พระเจ้าทรงใช้เขาก็จะเป็นพระคุณยิ่ง
|
ยูดา ๑:๒ |
ขอพระเมตตา สันติสุข และความรักจงเพิ่มพูนแก่ท่านทั้งหลายยิ่งๆ ขึ้นเถิด
|
ยูดา ๑:๑๒ |
คนเหล่านี้เป็นพวกที่ทำให้งานเลี้ยงเชื่อมความรักสามัคคีของพวกท่านเสื่อมเสียไป ขณะที่พวกเขาร่วมกินเลี้ยงกับพวกท่านโดยปราศจากความยำเกรง เขาเป็นผู้เลี้ยงแกะที่เลี้ยงแต่ตัวเอง เป็นเมฆที่ไม่มีน้ำที่ถูกพัดลอยไปตามลม เป็นต้นไม้ที่ไร้ผลในฤดูที่ออกผลและตายมาสองหนแล้วเพราะถูกถอนออกทั้งราก
|
ยูดา ๑:๒๑ |
จงรักษาตัวให้อยู่ในความรักของพระเจ้า ขณะคอยให้พระเมตตาของพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรานำท่านไปสู่ชีวิตนิรันดร์
|
วิวรณ์ ๒:๔ |
แต่เรามีข้อที่จะต่อว่าเจ้าบ้าง คือว่าเจ้าละทิ้งความรักครั้งแรกของเจ้า
|
วิวรณ์ ๒:๑๙ |
“เรารู้จักความประพฤติของเจ้า รู้เรื่องความรัก ความเชื่อ การปรนนิบัติ และความทรหดอดทนของเจ้า และรู้ว่าความประพฤติในตอนปลายนั้นดีกว่าตอนต้น
|
Thai Bible (THS) 2011 |
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ ฉบับมาตรฐาน |