|
|
|
|
|
|
|
|
|
พระคัมภีร์ในประเทศไทย (THS) 2011
|
สุภาษิต ๑๗
|
๑ |
เสบียงกรังหน่อยหนึ่งพร้อมกับความสงบสุข ดีกว่าบ้านที่เต็มด้วยงานเลี้ยงพร้อมกับการวิวาท |
๒ |
ทาสที่ฉลาดจะปกครองบุตรชายผู้ก่อเรื่องน่าอับอาย และจะได้ส่วนแบ่งมรดกเหมือนเป็นคนหนึ่งในครอบครัว |
๓ |
เบ้าหลอมมีไว้สำหรับเงิน และเตาถลุงสำหรับทองคำ แต่พระยาห์เวห์ทรงทดลองใจ |
๔ |
ผู้ทำชั่วใส่ใจฟังปากที่เลวร้าย และคนมุสาให้ความสนใจแก่ลิ้นหายนะ |
๕ |
ผู้ที่เหยียดหยามคนยากจนก็ดูถูกพระผู้สร้างของเขา ผู้ที่ยินดีเมื่อเกิดภัยพิบัติแก่คนอื่นจะถูกลงโทษ |
๖ |
หลานเป็นมงกุฎของคนแก่ และศักดิ์ศรีของบุตรชายคือบิดาของเขา |
๗ |
วาจาดีเลิศไม่คู่ควรกับคนโง่เขลาฉันใด วาจามุสายิ่งไม่เหมาะกับเจ้านายฉันนั้น |
๘ |
สินบนเหมือนแก้ววิเศษในสายตาของผู้ให้ เขาจะหันไปทางไหนก็เจริญรุ่งเรืองทางนั้น |
๙ |
ผู้ให้อภัยการละเมิดก็มุ่งจะสร้างมิตรภาพ แต่คนที่ชอบพูดย้ำความผิดจะทำให้เพื่อนสนิทแตกคอกัน |
๑๐ |
คำว่ากล่าวเข้าไปในคนที่มีความเข้าใจ ลึกกว่าการเฆี่ยนคนโง่สักร้อยที |
๑๑ |
คนชั่วร้ายก็แสวงหาแต่การกบฏ ดังนั้นผู้สื่อสารดุร้ายจะถูกส่งไปสู้เขา |
๑๒ |
ให้คนไปพบแม่หมีที่ลูกถูกขโมยไป ยังดีกว่าไปพบคนโง่ในความโง่ของเขา |
๑๓ |
คนที่ทำความชั่วตอบแทนความดี ความชั่วจะไม่พรากจากบ้านของคนนั้น |
๑๔ |
การเริ่มต้นวิวาทก็เหมือนปล่อยน้ำให้ไหล ฉะนั้นจงหยุดเสียก่อนเกิดการพิพาท |
๑๕ |
บุคคลที่ตัดสินว่าคนอธรรมไม่มีความผิดและบุคคลที่ลงโทษคนชอบธรรม ทั้งสองก็เป็นที่เกลียดชังต่อพระยาห์เวห์ |
๑๖ |
ทำไมคนโง่จึงมีเงินในมือเพื่อซื้อปัญญา ในเมื่อเขาไม่มีใจปรารถนา? |
๑๗ |
มิตรสหายย่อมรักกันทุกเวลา และพี่น้องเกิดมาเพื่อช่วยกันยามทุกข์ยาก |
๑๘ |
คนไม่มีสามัญสำนึกย่อมให้คำปฏิญาณ และเป็นผู้ค้ำประกันต่อหน้าเพื่อนบ้านของตน |
๑๙ |
ผู้รักการละเมิดก็รักการวิวาท ผู้ทำประตูบ้านของตนให้สูงก็แสวงหาการทำลาย |
๒๐ |
คนใจคดจะไม่เจริญรุ่งเรือง และผู้ที่มีลิ้นตลบตะแลงย่อมตกอยู่ในความยากลำบาก |
๒๑ |
ผู้ให้กำเนิดคนโง่ย่อมทุกข์โศก และบิดาของคนโง่เขลาไม่มีความชื่นบาน |
๒๒ |
ใจร่าเริงเป็นยาอย่างดี แต่จิตใจชอกช้ำทำให้กระดูกแห้ง |
๒๓ |
คนอธรรมรับสินบนเป็นการลับ เพื่อผันแปรวิถีแห่งความยุติธรรม |
๒๔ |
คนที่มีความเข้าใจย่อมจับจ้องดูปัญญา แต่ตาของคนโง่อยู่ที่สุดปลายแผ่นดินโลก |
๒๕ |
บุตรชายโง่เป็นความโศกสลดแก่บิดา และเป็นความขมขื่นแก่มารดา |
๒๖ |
การลงโทษคนชอบธรรมก็ไม่ดี การโบยตีคนดี เพราะความซื่อตรงก็ผิด |
๒๗ |
บุคคลที่ยับยั้งถ้อยคำของเขาเป็นคนมีความรู้ และบุคคลผู้มีจิตใจเยือกเย็นเป็นคนมีความเข้าใจ |
๒๘ |
แม้คนโง่หากนิ่งเสียก็นับว่ามีปัญญา เมื่อเขาปิดปากของตนก็นับว่ามีความคิด |
Thai Bible (THS) 2011 |
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ ฉบับมาตรฐาน |
สุภาษิต ๑๗:1 |
สุภาษิต ๑๗:2 |
สุภาษิต ๑๗:3 |
สุภาษิต ๑๗:4 |
สุภาษิต ๑๗:5 |
สุภาษิต ๑๗:6 |
สุภาษิต ๑๗:7 |
สุภาษิต ๑๗:8 |
สุภาษิต ๑๗:9 |
สุภาษิต ๑๗:10 |
สุภาษิต ๑๗:11 |
สุภาษิต ๑๗:12 |
สุภาษิต ๑๗:13 |
สุภาษิต ๑๗:14 |
สุภาษิต ๑๗:15 |
สุภาษิต ๑๗:16 |
สุภาษิต ๑๗:17 |
สุภาษิต ๑๗:18 |
สุภาษิต ๑๗:19 |
สุภาษิต ๑๗:20 |
สุภาษิต ๑๗:21 |
สุภาษิต ๑๗:22 |
สุภาษิต ๑๗:23 |
สุภาษิต ๑๗:24 |
สุภาษิต ๑๗:25 |
สุภาษิต ๑๗:26 |
สุภาษิต ๑๗:27 |
สุภาษิต ๑๗:28 |
สุภาษิต 1 / สุภาษิ 1 |
สุภาษิต 2 / สุภาษิ 2 |
สุภาษิต 3 / สุภาษิ 3 |
สุภาษิต 4 / สุภาษิ 4 |
สุภาษิต 5 / สุภาษิ 5 |
สุภาษิต 6 / สุภาษิ 6 |
สุภาษิต 7 / สุภาษิ 7 |
สุภาษิต 8 / สุภาษิ 8 |
สุภาษิต 9 / สุภาษิ 9 |
สุภาษิต 10 / สุภาษิ 10 |
สุภาษิต 11 / สุภาษิ 11 |
สุภาษิต 12 / สุภาษิ 12 |
สุภาษิต 13 / สุภาษิ 13 |
สุภาษิต 14 / สุภาษิ 14 |
สุภาษิต 15 / สุภาษิ 15 |
สุภาษิต 16 / สุภาษิ 16 |
สุภาษิต 17 / สุภาษิ 17 |
สุภาษิต 18 / สุภาษิ 18 |
สุภาษิต 19 / สุภาษิ 19 |
สุภาษิต 20 / สุภาษิ 20 |
สุภาษิต 21 / สุภาษิ 21 |
สุภาษิต 22 / สุภาษิ 22 |
สุภาษิต 23 / สุภาษิ 23 |
สุภาษิต 24 / สุภาษิ 24 |
สุภาษิต 25 / สุภาษิ 25 |
สุภาษิต 26 / สุภาษิ 26 |
สุภาษิต 27 / สุภาษิ 27 |
สุภาษิต 28 / สุภาษิ 28 |
สุภาษิต 29 / สุภาษิ 29 |
สุภาษิต 30 / สุภาษิ 30 |
สุภาษิต 31 / สุภาษิ 31 |
|
|
|
|
|