|
|
|
|
|
|
|
|
|
พระคัมภีร์ในประเทศไทย (THS) 2011
|
สุภาษิต ๑
|
๑ |
บรรดาสุภาษิตของซาโลมอน ผู้เป็นกษัตริย์แห่งอิสราเอลและโอรสของดาวิด |
๒ |
เพื่อให้รู้จักปัญญาและการสั่งสอน เพื่อให้เข้าใจถ้อยคำแห่งความรอบรู้ |
๓ |
เพื่อรับการสั่งสอนให้ฉลาด ในเรื่องความชอบธรรม ความยุติธรรมและความเที่ยงธรรม |
๔ |
เพื่อให้ความสุขุมแก่คนรู้น้อย ให้ความรู้และความเฉลียวฉลาดแก่คนหนุ่ม |
๕ |
คนมีปัญญาจะได้ยินและเพิ่มพูนการเรียนรู้ และคนที่มีความเข้าใจจะได้การชี้แนะ |
๖ |
เพื่อให้เข้าใจสุภาษิตและอุปมา ทั้งถ้อยคำของคนมีปัญญาและปริศนาของพวกเขา |
๗ |
ความยำเกรงพระยาห์เวห์เป็นจุดเริ่มต้นของความรู้ คนโง่ย่อมดูหมิ่นปัญญาและการสั่งสอน |
๘ |
ลูกเอ๋ย จงฟังคำสั่งสอนของพ่อเจ้า และอย่าทิ้งคำสอนของแม่เจ้า |
๙ |
เพราะสองสิ่งนั้นเป็นมงคลงามที่ศีรษะเจ้า เป็นสร้อยรอบคอเจ้า |
๑๐ |
ลูกเอ๋ย ถ้าคนบาปล่อชวนเจ้า อย่าได้ยอมตาม |
๑๑ |
ถ้าพวกเขาพูดว่า “มากับเราเถิด ให้เราหมอบคอยเอาเลือดคน ให้เราซุ่มทำร้ายคนบริสุทธิ์เล่น เถิด |
๑๒ |
ให้เรากลืนพวกเขาทั้งเป็นอย่างแดนคนตาย และกลืนเขาทั้งตัว อย่างคนเหล่านั้นที่ลงหลุมมรณา |
๑๓ |
เราจะพบของล้ำค่าทุกอย่าง เราจะบรรจุบ้านเราให้เต็มด้วยของที่ปล้นมาได้ |
๑๔ |
จงเข้าส่วนกับเรา เราทุกคนจะมีเงินถุงเดียวกัน” |
๑๕ |
ลูกเอ๋ย อย่าเดินในทางนั้นกับพวกเขา จงยั้งเท้าของเจ้าจากวิถีของพวกเขา |
๑๖ |
เพราะว่าเท้าของพวกเขาวิ่งไปหาความชั่วร้าย และพวกเขารีบเร่งไปฆ่าคน |
๑๗ |
เพราะไม่มีประโยชน์ที่จะขึงข่ายให้นกเห็น |
๑๘ |
แต่คนเหล่านี้หมอบคอยเอาเลือดตนเอง พวกเขาซุ่มทำร้ายชีวิตตัวเอง |
๑๙ |
ทางของทุกคนที่หากำไรด้วยความทารุณโหดร้าย ก็อย่างนี้แหละ มันย่อมคร่าเอาชีวิตเจ้าของนั้นเอง |
๒๐ |
ปัญญา ร้องเสียงดังอยู่ที่ถนน เธอเปล่งเสียงของเธอที่ลานเมือง |
๒๑ |
เธอร้องเรียกอยู่ตามหัวถนนที่จอแจ เธอกล่าวถ้อยคำที่ทางเข้าประตูเมืองว่า |
๒๒ |
“คนรู้น้อยเอ๋ย พวกเจ้าจะรักความรู้น้อยไปนานเท่าไร? คนที่ชอบเยาะเย้ยจะพอใจในการเยาะเย้ยไปนานเท่าไร? และคนโง่จะเกลียดความรู้นานเท่าไร? |
๒๓ |
จงหันมาสนใจคำตักเตือนของข้า นี่แน่ะ ข้าจะเทความคิดของข้าให้เจ้าทั้งหลาย ข้าจะให้ถ้อยคำของข้าแจ้งแก่พวกเจ้า |
๒๔ |
เพราะข้าได้เรียกแล้ว แต่พวกเจ้าปฏิเสธ ข้ายื่นมือออก แต่ไม่มีใครใส่ใจ |
๒๕ |
พวกเจ้าเพิกเฉยคำแนะนำทุกอย่างของข้า และไม่ยอมรับคำตักเตือนของข้าเลย |
๒๖ |
ข้าเองจะหัวเราะเยาะความหายนะของพวกเจ้า ข้าจะเยาะเย้ยเมื่อความกลัวมาถึงพวกเจ้า |
๒๗ |
เมื่อความกลัวมากระทบพวกเจ้าอย่างพายุร้าย และความหายนะของพวกเจ้ามาถึงอย่างพายุหมุน เมื่อความทุกข์และความระทมใจมาเหนือพวกเจ้า |
๒๘ |
แล้วพวกเขาจะร้องเรียกข้า แต่ข้าจะไม่ตอบ พวกเขาจะแสวงหาข้า แต่จะไม่พบข้า |
๒๙ |
เพราะว่าพวกเขาเกลียดความรู้ และไม่เลือกเอาความยำเกรงพระยาห์เวห์ |
๓๐ |
พวกเขาไม่ยอมรับคำแนะนำของข้าเลย แต่กลับดูหมิ่นคำตักเตือนทุกอย่างของข้า |
๓๑ |
เพราะฉะนั้น พวกเขาจะกินผลแห่งทางของตนเอง และอิ่มด้วยความคิดเห็นของพวกเขาเอง |
๓๒ |
เพราะการที่คนรู้น้อยหันเหจากทางที่ถูกต้องก็นำความพินาศมาสู่ตนเอง และการที่คนโง่หลงเพลิดเพลินก็ทำลายตนเอง |
๓๓ |
แต่ผู้ที่ฟังข้า จะอยู่อย่างปลอดภัย และอยู่อย่างสงบสุข ไม่กลัวสิ่งร้ายใดๆ ” |
Thai Bible (THS) 2011 |
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ ฉบับมาตรฐาน |
สุภาษิต ๑:1 |
สุภาษิต ๑:2 |
สุภาษิต ๑:3 |
สุภาษิต ๑:4 |
สุภาษิต ๑:5 |
สุภาษิต ๑:6 |
สุภาษิต ๑:7 |
สุภาษิต ๑:8 |
สุภาษิต ๑:9 |
สุภาษิต ๑:10 |
สุภาษิต ๑:11 |
สุภาษิต ๑:12 |
สุภาษิต ๑:13 |
สุภาษิต ๑:14 |
สุภาษิต ๑:15 |
สุภาษิต ๑:16 |
สุภาษิต ๑:17 |
สุภาษิต ๑:18 |
สุภาษิต ๑:19 |
สุภาษิต ๑:20 |
สุภาษิต ๑:21 |
สุภาษิต ๑:22 |
สุภาษิต ๑:23 |
สุภาษิต ๑:24 |
สุภาษิต ๑:25 |
สุภาษิต ๑:26 |
สุภาษิต ๑:27 |
สุภาษิต ๑:28 |
สุภาษิต ๑:29 |
สุภาษิต ๑:30 |
สุภาษิต ๑:31 |
สุภาษิต ๑:32 |
สุภาษิต ๑:33 |
สุภาษิต 1 / สุภาษิ 1 |
สุภาษิต 2 / สุภาษิ 2 |
สุภาษิต 3 / สุภาษิ 3 |
สุภาษิต 4 / สุภาษิ 4 |
สุภาษิต 5 / สุภาษิ 5 |
สุภาษิต 6 / สุภาษิ 6 |
สุภาษิต 7 / สุภาษิ 7 |
สุภาษิต 8 / สุภาษิ 8 |
สุภาษิต 9 / สุภาษิ 9 |
สุภาษิต 10 / สุภาษิ 10 |
สุภาษิต 11 / สุภาษิ 11 |
สุภาษิต 12 / สุภาษิ 12 |
สุภาษิต 13 / สุภาษิ 13 |
สุภาษิต 14 / สุภาษิ 14 |
สุภาษิต 15 / สุภาษิ 15 |
สุภาษิต 16 / สุภาษิ 16 |
สุภาษิต 17 / สุภาษิ 17 |
สุภาษิต 18 / สุภาษิ 18 |
สุภาษิต 19 / สุภาษิ 19 |
สุภาษิต 20 / สุภาษิ 20 |
สุภาษิต 21 / สุภาษิ 21 |
สุภาษิต 22 / สุภาษิ 22 |
สุภาษิต 23 / สุภาษิ 23 |
สุภาษิต 24 / สุภาษิ 24 |
สุภาษิต 25 / สุภาษิ 25 |
สุภาษิต 26 / สุภาษิ 26 |
สุภาษิต 27 / สุภาษิ 27 |
สุภาษิต 28 / สุภาษิ 28 |
สุภาษิต 29 / สุภาษิ 29 |
สุภาษิต 30 / สุภาษิ 30 |
สุภาษิต 31 / สุภาษิ 31 |
|
|
|
|
|