๒๓ |
แล้วพระราชาตรัสว่า “คนหนึ่งพูดว่า ‘เด็กที่มีชีวิตอยู่นี้เป็นลูกของข้า ส่วนลูกของเจ้าตายเสียแล้ว’ และอีกคนหนึ่งพูดว่า ‘ไม่ใช่ ลูกของเจ้าตายเสียแล้ว และลูกของข้ายังมีชีวิตอยู่’ ” |
พระคัมภีร์ในประเทศไทย (THS) 2011 |
|
๒๓ |
กษัตริย์ตรัสว่า “คนนี้ก็ว่า ‘ลูกฉันยังอยู่ ลูกเธอตายแล้ว’ คนนั้นก็ว่า ‘ไม่ใช่ ลูกเธอตายแล้ว ลูกฉันสิยังอยู่’ ” |
พระคัมภีร์ในประเทศไทย (TNCV) 2007 |
|
๒๓ |
กษัตริย์จึงพูดว่า “คนนี้ก็บอกว่า ‘ลูกชายของฉันยังมีชีวิตอยู่ ลูกชายของเธอตายแล้ว’ ส่วนอีกคนก็พูดว่า ‘ไม่จริง ลูกชายของเธอตายแล้ว ลูกของฉันต่างหากที่ยังมีชีวิตอยู่’” |
พระคัมภีร์ในประเทศไทย (ERV) 2001 |
|
๒๓ |
แล้วพระราชาตรัสว่า “คนหนึ่งพูดว่า ‘คนนี้เป็นบุตรของฉัน คือเด็กที่เป็นอยู่ และบุตรของเจ้าตายเสียแล้ว’ และอีกคนหนึ่งพูดว่า ‘ไม่ใช่ แต่บุตรของเจ้าตายเสียแล้ว และบุตรของฉันเป็นคนที่มีชีวิต’ ” |
พระคัมภีร์ในประเทศไทย (TH1971) |
|
๒๓ |
แล้วกษัตริย์ตรัสว่า "คนหนึ่งพูดว่า `คนนี้เป็นบุตรชายของฉัน คือเด็กที่เป็นอยู่ และบุตรชายของเจ้าตายเสียแล้ว' และอีกคนหนึ่งพูดว่า `ไม่ใช่ แต่บุตรชายของเจ้าตายเสียแล้ว และบุตรชายของฉันเป็นคนที่มีชีวิต'" |
พระคัมภีร์ในประเทศไทย 1940 |
|
๒๓ |
แล้ว กษัตริย์ ตรัส ว่า " คน หนึ่ง พูด ว่า ` คน นี้ เป็น บุตร ชาย ของ ฉัน คือ เด็ก ที่ เป็น อยู่ และ บุตร ชาย ของ เจ้า ตาย เสีย แล้ว ' และ อีก คน หนึ่ง พูด ว่า ` ไม่ ใช่ แต่ บุตร ชาย ของ เจ้า ตาย เสีย แล้ว และ บุตร ชาย ของ ฉัน เป็น คน ที่ มี ชีวิต ' " |
พระคัมภีร์ในประเทศไทย Tok |
|