๑ พงศาวดาร ๒๖:๑-๓๒ |
๑. ในกลุ่มของพวกคนเฝ้าประตู จากชาวโคราห์ มี เมเชเลมิยาห์ลูกชายของโคเร โคเรเป็นลูกชายคนหนึ่งของอาสาฟ |
๒. เมเชเลมิยาห์มีลูกชาย คือ เศคาริยาห์เป็นลูกชายคนแรก เยดียาเอลเป็นคนที่สอง เศบาดิยาห์เป็นคนที่สาม ยาทนีเอลเป็นคนที่สี่ |
๓. เอลามเป็นคนที่ห้า เยโฮฮานันเป็นคนที่หก เอลีโฮนัยเป็นคนที่เจ็ด |
๔. โอเบดเอโดมมีลูกชาย คือ เชไมอาห์เป็นลูกคนแรก เยโฮซาบาดเป็นคนที่สอง โยอาห์เป็นคนที่สาม สาคาร์เป็นคนที่สี่ เนธันเอลเป็นคนที่ห้า |
๕. อัมมีเอลเป็นคนที่หก อิสสาคาร์เป็นคนที่เจ็ด เปอุลเลธัยเป็นคนที่แปด พระเจ้าได้อวยพรโอเบด-เอโดม อย่างแท้จริง |
๖. เชไมอาห์ลูกชายของเขาก็มีลูกชายหลายคนที่เป็นผู้นำอยู่ในครอบครัวของพวกเขา เพราะพวกเขาเป็นคนที่มีความสามารถ |
๗. บรรดาลูกชายของเชไมอาห์คือ โอทนี เรฟาเอล โอเบดและเอลซาบาด ยังมีบรรดาพี่น้องของเขาซึ่งเป็นคนที่มีความสามารถเหมือนกัน คือ เอลีฮู กับ เสมาคิยาห์ |
๘. ทั้งหมดนี้เป็นลูกหลานของโอเบด-เอโดม ทั้งตัวพวกเขาและลูกชายทั้งหลายรวมทั้งญาติๆของพวกเขาล้วนเป็นคนที่มีความสามารถและมีเรี่ยวแรงในการทำงาน รวมครอบครัวของโอเบด-เอโดมได้ทั้งหมดหกสิบสองคน |
๙. เมเชเลมิยาห์ยังมีลูกชายและญาติๆที่มีความสามารถอีกสิบแปดคน |
๑๐. โฮสาห์คนเมรารีก็มีลูกหลานด้วย คือ ชิมรีที่เป็นหัวหน้า (เพราะถึงแม้ว่าเขาจะไม่ใช่ลูกชายคนแรก แต่พ่อของเขาก็ได้ให้เขาเป็นหัวหน้า) |
๑๑. ฮิลคียาห์เป็นคนที่สอง เทบาลิยาห์เป็นคนที่สาม เศคาริยาห์เป็นคนที่สี่ รวมจำนวนของลูกชายและญาติๆของโฮสาห์ได้ทั้งหมดสิบสามคน |
๑๒. พวกผู้นำที่เป็นผู้ชายในแผนกคนเฝ้าประตูนี้ มีหน้าที่เหมือนญาติๆของพวกเขาที่เป็นนักร้อง คือรับใช้อยู่ภายในบ้านของพระยาห์เวห์ |
๑๓. พวกเขาได้จับสลากเลือกประตูที่ต้องเฝ้าเป็นครอบครัวๆไปจนครบทุกครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวที่มีขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ |
๑๔. สลากของประตูทางทิศตะวันออกตกเป็นของเมเชเลมิยาห์ และพวกเขาก็ได้จับสลากให้กับเศคาริยาห์ลูกชายของเมเชเลมิยาห์ เศคาริยาห์เป็นที่ปรึกษาที่เฉลียวฉลาด เขาจับสลากได้ประตูทางทิศเหนือ |
๑๕. โอเบด-เอโดมได้ประตูทางทิศใต้และพวกลูกชายของเขามีหน้าที่เฝ้าประตูห้องเก็บของ |
๑๖. ส่วนชุปปิมและโฮสาห์เฝ้าประตูทิศตะวันตกกับประตูชัลเลเคทที่อยู่บนถนนที่ลาดชันขึ้นไป ยามจากแต่ละครอบครัวจะอยู่ตามตำแหน่งของตน |
๑๗. ในแต่ละวัน ที่ประตูทิศตะวันออกมีชาวเลวีอยู่หกคน ที่ประตูทางทิศเหนือมีสี่คน ประตูทางทิศใต้มีสี่คนและที่ประตูห้องเก็บของจะมีคนเฝ้าประจำอยู่ครั้งละสองคน |
๑๘. ส่วนที่ลาน ทางทิศตะวันตกจะมีคนอยู่บนถนนสี่คนและมีอยู่ที่ลานสองคน |
๑๙. คนเหล่านี้อยู่ในกลุ่มของคนเฝ้าประตู ที่เป็นชาวโคราห์และชาวเมรารี |
๒๐. จากเผ่าของเลวี อาหิยาห์ทำหน้าที่ดูแลคลังสมบัติของบ้านของพระเจ้า และสมบัติที่เป็นของศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ |
๒๑. ลูกหลานของลาดานเป็นลูกหลานของชาวเกอร์โชน เยฮีเอลีเป็นผู้นำคนหนึ่งของตระกูลลาดาน |
๒๒. ลูกหลานของเยฮีเอลี คือ เศธามและโยเอลน้องชายของเศธาม พวกเขามีหน้าที่ดูแลคลังสมบัติในบ้านของพระยาห์เวห์ |
๒๓. ผู้นำคนอื่นๆก็ได้รับเลือกมาจากคนอัมราม คนอิสฮาร์ คนเฮโบรนและคนอุสซีเอล |
๒๔. เชบูเอลลูกหลานของเกอร์โชมที่เป็นลูกชายของโมเสสเป็นหัวหน้าดูแลคลังสมบัติในวิหาร |
๒๕. ต่อไปนี้คือญาติๆของชูบาเอล ญาติที่สืบเชื้อสายมาจากเอลีเยเซอร์ คือ เรหับยาห์ลูกชายของเอลีเยเซอร์ เยชายาห์ลูกชายของเรหับยาห์ โยรัมลูกชายของเยชายาห์ ศิครีลูกชายของโยรัม และเชโลโมทลูกชายของศิครี |
๒๖. เชโลโมทคนนี้กับญาติๆของเขารับผิดชอบในการดูแลทรัพย์สมบัติทั้งหมดที่กษัตริย์ดาวิด พวกผู้นำครอบครัวและพวกผู้บังคับบัญชากองพันและกองร้อย รวมทั้งพวกแม่ทัพของกองทัพ ได้อุทิศไว้ให้กับพระยาห์เวห์ |
๒๗. ของที่ถูกยึดมาได้จากการทำสงครามนั้น พวกเขาได้อุทิศเป็นของขวัญ เพื่อใช้ในการซ่อมแซมบ้านของพระยาห์เวห์ |
๒๘. เชโลโมทคนนี้และญาติๆของเขายังต้องรับผิดชอบดูแลของทั้งหมดที่ซามูเอลผู้ที่เห็นนิมิต ซาอูลลูกชายของคีช อับเนอร์ลูกชายของเนอร์ และโยอาบลูกชายของนางเศรุยาห์ได้อุทิศไว้ |
๒๙. เคนานิยาห์กับพวกลูกชายของเขาได้รับมอบหมายจากคนอิสฮาร์ให้ทำงานอยู่ภายนอกวิหาร เป็นเจ้าหน้าที่ศาลและผู้ตัดสินเหนือชนชาติอิสราเอล |
๓๐. ฮาชาบิยาห์กับญาติๆของเขาที่มีความสามารถรวมหนึ่งพันเจ็ดร้อยคนได้รับมอบหมายจากคนเฮโบรนให้รับผิดชอบชนชาติอิสราเอลที่อาศัยอยู่ทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำจอร์แดนในงานทุกอย่างของพระยาห์เวห์และงานรับใช้ของกษัตริย์ |
๓๑. ส่วนคนเฮโบรน มี เยรียาห์เป็นหัวหน้าตามบัญชีรายชื่อเชื้อสายของครอบครัวพวกเขา (ในปีที่สี่สิบที่ดาวิดครองราชย์นั้นพวกเขาได้ตรวจบัญชีรายชื่อ และได้พบคนที่มีความสามารถในหมู่ของพวกเขาที่เมืองยาเซอร์ในกิเลอาด) |
๓๒. เยรียาห์มีญาติสองพันเจ็ดร้อยคนซึ่งล้วนเป็นคนที่มีความสามารถและเป็นผู้นำครอบครัวทั้งสิ้น กษัตริย์ดาวิดจึงได้แต่งตั้งพวกเขาขึ้นเหนือชาวรูเบน ชาวกาดและครึ่งหนึ่งของเผ่ามนัสเสห์ ให้ดูแลธุระทั้งหมดของพระเจ้าและของกษัตริย์ |
๑ พงศาวดาร ๒๗:๑-๓๔ |
๑. ต่อไปนี้คือรายชื่อของชาวอิสราเอลที่เป็นผู้นำครอบครัว เป็นนายพันนายร้อย เป็นเจ้าหน้าที่ของพวกชาวอิสราเอล ที่รับใช้กษัตริย์ในทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกองทหาร ที่ผลัดเปลี่ยนเวรในแต่ละเดือนตลอดปี แต่ละกองมีทหารอยู่สองหมื่นสี่พันคน |
๒. ยาโชเบอัมลูกชายของศับดีเอล เป็นผู้รับผิดชอบกองเวรกองแรกสำหรับเดือนแรก ในกองเวรของเขามีทหารอยู่สองหมื่นสี่พันคน |
๓. ยาโชเบอัมเป็นลูกหลานของเปเรศ เขาเป็นหัวหน้าของผู้บังคับบัญชาทั้งหมดในกองทัพ เขาเข้าเวรในเดือนที่หนึ่ง |
๔. โดดัยคนอาโหอาห์ เป็นผู้รับผิดชอบกองเวรสำหรับเดือนที่สอง มิกโลทเป็นรองหัวหน้าของกองนั้น ในกองเวรของเขามีทหารอยู่สองหมื่นสี่พันคน |
๕. เบไนยาห์ลูกชายของหัวหน้านักบวชเยโฮยาดา เป็นผู้บังคับบัญชากองเวรที่สามสำหรับเดือนที่สาม ในกองเวรของเขามีทหารอยู่สองหมื่นสี่พันคน |
๖. ลูกชายของเขาคืออัมมีซาบาดเป็นรองหัวหน้าของกองเวรนี้ เบไนยาห์คนนี้เป็นทหารกล้าอยู่ในหมู่วีรบุรุษสามสิบคน และเป็นผู้นำของสามสิบคนนั้นด้วย |
๗. อาสาเฮลที่เป็นน้องชายของโยอาบเป็นผู้บังคับบัญชากองทัพที่สี่สำหรับเดือนที่สี่ และเศบาดิยาห์ลูกชายของเขาเป็นรองหัวหน้าของกองเวรนี้ ในกองเวรของเขามีทหารอยู่สองหมื่นสี่พันคน |
๘. ชัมหุทคนอิสราห์ เป็นผู้บังคับบัญชากองเวรที่ห้าสำหรับเดือนที่ห้า ในกองเวรของเขามีทหารอยู่สองหมื่นสี่พันคน |
๙. อิราลูกชายของอิกเขชคนเทโคอา เป็นผู้บังคับบัญชากองเวรที่หกสำหรับเดือนที่หก ในกองเวรของเขามีทหารอยู่สองหมื่นสี่พันคน |
๑๐. เฮเลสคนเปโลนจากเผ่าเอฟราอิม เป็นผู้บังคับบัญชากองเวรที่เจ็ด สำหรับเดือนที่เจ็ด ในกองเวรของเขามีทหารอยู่สองหมื่นสี่พันคน |
๑๑. สิบเบคัยคนหุชาห์ จากครอบครัวของเศราห์ เป็นผู้บังคับบัญชากองเวรที่แปด สำหรับเดือนที่แปด ในกองเวรของเขามีทหารอยู่สองหมื่นสี่พันคน |
๑๒. อาบีเยเซอร์คนอานาโธท จากเผ่าเบนยามิน เป็นผู้บังคับบัญชากองเวรที่เก้า สำหรับเดือนที่เก้า ในกองเวรของเขามีทหารอยู่สองหมื่นสี่พันคน |
๑๓. มาหะรัยชาวเนโทฟาห์ จากครอบครัวเศราห์ เป็นผู้บังคับบัญชากองเวรที่สิบ สำหรับเดือนที่สิบ ในกองเวรเขามีทหารอยู่สองหมื่นสี่พันคน |
๑๔. เบไนยาห์คนปิราโธน จากเผ่าเอฟราอิม เป็นผู้บังคับบัญชากองเวรที่สิบเอ็ด สำหรับเดือนที่สิบเอ็ด ในกองเวรของเขามีทหารอยู่สองหมื่นสี่พันคน |
๑๕. เฮลดัยชาวเนโทฟาห์ จากครอบครัวของโอทนีเอล เป็นผู้บังคับบัญชากองเวรที่สิบสอง สำหรับเดือนที่สิบสอง ในกองเวรของเขามีทหารอยู่สองหมื่นสี่พันคน |
๑๖. ต่อไปนี้คือรายชื่อของพวกผู้นำเผ่าต่างๆของอิสราเอล สำหรับชาวรูเบน คือ เอลีเยเซอร์ลูกชายของศิครี สำหรับชาวสิเมโอน คือ เชฟาทิยาห์ลูกชายของมาอาคาห์ |
๑๗. สำหรับชาวเลวี คือ ฮาชาบิยาห์ลูกชายของเคมูเอล สำหรับชาวอาโรนคือศาโดก |
๑๘. สำหรับชาวยูดาห์คือ เอลีฮู พี่ชายคนหนึ่งของดาวิด สำหรับชาวอิสสาคาร์ คือ อมรีลูกชายของมีคาเอล |
๑๙. สำหรับชาวเศบูลุน คือ อิชมัยอาห์ลูกชายของโอบาดียาห์ สำหรับชาวนัฟทาลี คือ เยเรโมทลูกชายอัสรีเอล |
๒๐. สำหรับชาวเอฟราอิม คือ โฮเชยาลูกชายของอาซาซิยาห์ สำหรับครึ่งหนึ่งของเผ่ามนัสเสห์ คือ โยเอลลูกชายของเปดายาห์ |
๒๑. สำหรับอีกครึ่งหนึ่งของเผ่ามนัสเสห์ในกิเลอาด คือ อิดโดลูกชายของเศคาริยาห์ สำหรับชาวเบนยามิน คือ ยาอาซีเอลลูกชายของอับเนอร์ |
๒๒. สำหรับชาวดาน คือ อาซาเรลลูกชายของเยโรฮัม คนเหล่านี้เป็นผู้นำของเผ่าต่างๆในอิสราเอล |
๒๓. พระยาห์เวห์ได้ทำตามที่พระองค์ได้สัญญาไว้ คือทำให้ชนชาติอิสราเอลมีจำนวนมากมายมหาศาลเหมือนกับดวงดาวบนท้องฟ้า ดาวิดก็เลยไม่ได้นับคนที่มีอายุต่ำกว่ายี่สิบปีลงมา |
๒๔. โยอาบลูกชายของนางเศรุยาห์ได้เริ่มต้นนับชาวอิสราเอล แต่นับไม่เสร็จ เพราะความโกรธของพระเจ้าในเรื่องนี้ได้ตกลงมาบนชาวอิสราเอลก่อน และจำนวนที่นับนี้ก็ไม่ได้ถูกจดบันทึกลงในหนังสือเหตุการณ์ประจำวันของกษัตริย์ดาวิด |
๒๕. ต่อไปนี้คือรายชื่อของผู้ที่ดูแลพวกคลังสมบัติของกษัตริย์ คือ อัสมาเวทลูกชายของอาดีเอล มีหน้าที่ดูแลพวกคลังสมบัติของกษัตริย์ โยนาธานลูกชายของอุสซียาห์ มีหน้าที่ดูแลคลังสมบัติในชนบท ในเมืองต่างๆในหมู่บ้านทั้งหลายและในเมืองป้อมปราการ |
๒๖. เอสะรีลูกชายของเคลูบ มีหน้าที่ดูแลพวกชาวนาที่เป็นผู้ไถนา |
๒๗. ชิเมอีชาวรามาห์ มีหน้าที่ดูแลสวนองุ่น ศับดีชาวเชฟาม มีหน้าที่ดูแลผลผลิตในสวนองุ่นสำหรับทำเหล้าองุ่น |
๒๘. บาอัลฮานันชาวเกเดอร์ มีหน้าที่ดูแลสวนมะกอกกับสวนมะเดื่อที่ภูเขาเชเฟลาห์ทางทิศตะวันตก โยอาช มีหน้าที่เก็บรวบรวมน้ำมันมะกอก |
๒๙. ชิตรัยชาวชาโรน มีหน้าที่ดูแลฝูงวัวในทุ่งหญ้าชาโรน ชาฟัทลูกชายของอัดลัย มีหน้าที่ดูแลฝูงวัวตามหุบเขาต่างๆ |
๓๐. โอบิลชาวอิชมาเอล มีหน้าที่ดูแลฝูงอูฐ เยเดยาห์ชาวเมโรโนท มีหน้าที่ดูแลฝูงลา |
๓๑. ยาซีสชาวฮาการ์ มีหน้าที่ดูแลฝูงแกะ คนเหล่านี้คือเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลทรัพย์สมบัติของกษัตริย์ดาวิด |
๓๒. โยนาธานลุงของดาวิด เป็นที่ปรึกษาที่เฉลียวฉลาดและเป็นผู้จดบันทึก เยฮีเอลลูกชายฮัคโมนีดูแลพวกลูกชายของกษัตริย์ |
๓๓. อาหิโธเฟลเป็นที่ปรึกษาของกษัตริย์ และหุชัยชาวอารคีเป็นเพื่อนของกษัตริย์ |
๓๔. ผู้ที่สืบทอดต่อจากอาหิโธเฟลคือเยโฮยาดาลูกชายของเบไนยาห์ กับอาบียาธาร์ ส่วนโยอาบได้เป็นแม่ทัพในกองทัพของกษัตริย์ดาวิด |
สดุดี ๗๘:๕๖-๖๖ |
๕๖. แต่พวกอิสราเอลก็ยังลองดีกับพระเจ้าผู้ใหญ่ยิ่งสูงสุด กบฏต่อพระองค์และไม่ได้เชื่อฟังกฎทั้งหลายของพระองค์ |
๕๗. ชาวอิสราเอลไม่จงรักภักดีและทรยศต่อพระเจ้า เหมือนกับที่บรรพบุรุษของพวกเขาเคยทำ พวกเขาเชื่อถือไม่ได้เหมือนคันธนูที่ใช้การไม่ได้ |
๕๘. พวกเขาทำให้พระองค์โกรธด้วยการสร้างสถานศักดิ์สิทธิ์มากมาย และทำให้พระองค์หึงหวงด้วยการสร้างรูปเคารพมากมาย |
๕๙. เมื่อพระเจ้าได้ยินเรื่องเหล่านี้ พระองค์โกรธ และพระองค์ทอดทิ้งอิสราเอลอย่างสิ้นเชิง |
๖๐. พระองค์ละทิ้งเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์ในเมืองชิโลห์ไป ซึ่งเคยเป็นที่สถิตของพระองค์ท่ามกลางมนุษย์ |
๖๑. พระองค์ยอมปล่อยให้หีบอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ถูกยึดไป พระองค์ยอมปล่อยให้ศัตรูยึดเอาสัญลักษณ์แห่งฤทธิ์อำนาจและสง่าราศีของพระองค์ไป |
๖๒. พระองค์เกรี้ยวโกรธคนของพระองค์ และปล่อยให้คนของพระองค์ตายด้วยคมดาบ |
๖๓. พวกทหารหนุ่มถูกไฟเผาตายหมด และพวกสาวบริสุทธิ์ยังคงไม่ได้แต่งงาน |
๖๔. พวกนักบวชล้มตายด้วยคมดาบ แต่ภรรยาหม้ายของพวกเขาไม่สามารถไว้ทุกข์ได้ตามปกติ |
๖๕. แล้วองค์เจ้าชีวิตก็ตื่นขึ้นมาเหมือนคนที่เพิ่งตื่นนอน เหมือนกับนักรบที่เพิ่งตื่นขึ้นจากการเมาเหล้าองุ่น |
๖๖. พระองค์ตีเหล่าศัตรู ขับไล่พวกเขากลับไป และทำให้พวกเขาอับอายขายหน้าตลอดไป |
สุภาษิต ๒๐:๔-๕ |
๔. ในฤดูทำนา คนขี้เกียจไม่ไถพรวนดิน เมื่อถึงฤดูเก็บเกี่ยว เขาก็หาผลผลิตแต่ไม่เจอ |
๕. ความนึกคิดในใจคนก็เปรียบเหมือนน้ำลึก แต่คนที่มีความเข้าใจก็สามารถดึงมันออกมาได้ |
กิจการของอัครทูต ๑๐:๑-๒๓ |
๑. ที่เมืองซีซารียามีนายร้อยคนหนึ่งชื่อโครเนลิอัส เป็นผู้คุมกองร้อยที่มีชื่อเรียกว่า “กองทหารชาวอิตาลี” |
๒. เขาเป็นคนที่เคร่งศาสนามาก ทั้งเขาและครอบครัวต่างก็เคารพยำเกรงพระเจ้า เขาบริจาคช่วยเหลือคนจน และอธิษฐานต่อพระเจ้าอยู่เสมอ |
๓. ตอนนั้นเวลาบ่ายสามโมง โครเนลิอัสได้เห็นนิมิตอย่างชัดเจน คือเขาเห็นทูตสวรรค์องค์หนึ่งของพระเจ้าเข้ามาพูดกับเขาว่า “โครเนลิอัส” |
๔. โครเนลิอัสมองทูตสวรรค์ด้วยความเกรงกลัว และถามว่า “อะไรหรือครับท่าน” ทูตสวรรค์จึงพูดกับเขาว่า “พระเจ้าได้ยินคำอธิษฐานของคุณแล้ว และชอบใจที่คุณได้บริจาคช่วยเหลือคนจน |
๕. ตอนนี้ให้ส่งคนไปที่เมืองยัฟฟา ไปพาชายชื่อซีโมนที่คนเรียกว่าเปโตรมาหาคุณ |
๖. เขาพักอยู่กับช่างฟอกหนังชื่อซีโมน บ้านอยู่ริมทะเล” |
๗. เมื่อทูตสวรรค์พูดกับโครเนลิอัสแล้วก็จากไป โครเนลิอัสจึงเรียกคนใช้ในบ้านมาสองคน พร้อมกับทหารคนสนิทที่เคร่งศาสนามาคนหนึ่ง |
๘. และเขาก็ได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้พวกเขาฟัง จากนั้นก็ส่งพวกเขาไปเมืองยัฟฟา |
๙. วันต่อมาขณะที่คนพวกนี้กำลังเดินทางใกล้ถึงเมืองยัฟฟา เป็นเวลาเดียวกับที่เปโตรได้ขึ้นไปอธิษฐานบนดาดฟ้า ตอนใกล้เที่ยงวัน |
๑๐. เขาเริ่มหิวและอยากกินอาหาร ขณะที่คนในบ้านกำลังเตรียมอาหารอยู่นั้น เปโตรก็เคลิ้มหลับไป |
๑๑. เขาเห็นท้องฟ้าเปิด และเห็นสิ่งที่ดูเหมือนกับผ้าผืนใหญ่ลอยลงมา ผ้าผืนนั้นถูกยึดไว้ทั้งสี่มุมและหย่อนลงมาที่พื้นโลก |
๑๒. ในนั้นมีสัตว์ทุกชนิด ทั้งสัตว์เลื้อยคลานและนก |
๑๓. และมีเสียงพูดว่า “เปโตร ลุกขึ้นมาฆ่าสัตว์พวกนี้กินสิ” |
๑๔. เปโตรตอบว่า “ไม่ได้หรอกครับองค์เจ้าชีวิต เพราะผมไม่เคยกินสิ่งพวกนี้ที่เป็นของต้องห้ามหรือแปดเปื้อนตามกฎของโมเสส” |
๑๕. เสียงนั้นก็พูดอีกครั้งว่า “ของอะไรที่พระเจ้าทำให้สะอาดแล้ว เจ้าไม่ควรถือว่ามันไม่สะอาด” |
๑๖. เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นถึงสามครั้ง แล้วของทั้งหมดก็ถูกนำกลับขึ้นไปบนท้องฟ้าทันที |
๑๗. เปโตรกำลังงงงวยว่านิมิตที่เห็นนี้หมายถึงอะไร พอดีคนที่โครเนลิอัสส่งมาก็กำลังยืนอยู่ที่หน้าประตู และถามหาบ้านของซีโมน |
๑๘. ชายกลุ่มนั้นร้องถามว่า “ซีโมนที่คนเรียกว่าเปโตรพักอยู่ที่นี่หรือเปล่าครับ” |
๑๙. พระวิญญาณพูดกับเปโตรที่ยังคิดถึงเรื่องนิมิตอยู่ว่า “ฟังสิ มีชายสามคนมาถามหาเจ้าอยู่ |
๒๐. ลุกขึ้น ลงไปข้างล่างเถอะ และให้ไปกับพวกเขาโดยไม่ต้องลังเลอะไรเลย เพราะเราเป็นคนเรียกให้พวกเขามาเอง” |
๒๑. แล้วเปโตรก็ลงไปพูดกับพวกเขาว่า “ผมเองที่พวกคุณตามหา มีธุระอะไรหรือ” |
๒๒. พวกเขาตอบว่า “นายร้อยโครเนลิอัส เป็นคนส่งพวกเรามา เขาเป็นคนดี แล้วเขาเคารพยำเกรงพระเจ้า ชาวยิวยกย่องนับถือเขาทุกคน ทูตสวรรค์ที่ศักดิ์สิทธิ์บอกให้เขามาเชิญท่านไปที่บ้าน เพื่อจะได้ฟังเรื่องที่ท่านจะเล่า” |
๒๓. เปโตรก็เลยชวนชายทั้งสามพักที่บ้าน วันรุ่งขึ้น เปโตรได้จัดของและไปกับพวกเขา มีพี่น้องบางคนจากเมืองยัฟฟาตามไปด้วย |