๑ พงศาวดาร ๑๕:๑-๒๙ |
๑. ดาวิดได้สร้างวังของเขาเองขึ้นในเมืองของดาวิด และเขาได้เตรียมสร้างสถานที่สำหรับหีบของพระเจ้าด้วย เขาได้ตั้งเต็นท์ขึ้นหลังหนึ่งสำหรับหีบใบนั้น |
๒. แล้วดาวิดพูดว่า “คนที่ไม่ใช่ชาวเลวีห้ามมาถือหีบของพระเจ้า เพราะพระยาห์เวห์ได้เลือกพวกเลวีให้มาเป็นผู้ถือหีบของพระยาห์เวห์ และให้มารับใช้พระองค์ตลอดไป” |
๓. ดาวิดเรียกประชุมชาวอิสราเอลทั้งหมดที่เมืองเยรูซาเล็ม เพื่อที่จะนำหีบของพระยาห์เวห์ไปไว้ยังสถานที่ที่เขาได้จัดเตรียมไว้ |
๔. และดาวิดก็ได้รวบรวมบรรดาลูกหลานของอาโรนและชาวเลวี |
๕. บรรดาลูกหลานของโคฮาท มีอุรีเอลเป็นหัวหน้า พร้อมกับญาติๆของเขาอีกหนึ่งร้อยยี่สิบคน |
๖. จากบรรดาลูกหลานของเมรารี มีอาสายาห์เป็นหัวหน้า พร้อมกับญาติๆของเขาอีกสองร้อยยี่สิบคน |
๗. จากบรรดาลูกหลานของเกอร์โชม มีโยเอลเป็นหัวหน้าพร้อมกับญาติๆของเขาอีกหนึ่งร้อยสามสิบคน |
๘. จากบรรดาลูกหลานของเอลีซาฟาน มีเชไมอาห์เป็นหัวหน้าพร้อมกับญาติๆของเขาอีกสองร้อยคน |
๙. จากบรรดาลูกหลานของเฮโบรน มีเอลีเอลเป็นหัวหน้าพร้อมกับญาติๆของเขาอีกแปดสิบคน |
๑๐. จากบรรดาลูกหลานของอุสซีเอล มีอัมมีนาดับเป็นหัวหน้าพร้อมกับญาติๆของเขาอีกหนึ่งร้อยสิบสองคน |
๑๑. แล้วดาวิดก็เรียกตัวนักบวชศาโดกและนักบวชอาบียาธาร์รวมทั้งชาวเลวีซึ่งประกอบด้วย อุรีเอล อาสายาห์ โยเอล เชไมอาห์ เอลีเอลและอัมมีนาดับเข้าพบ |
๑๒. และเขาก็ได้พูดกับคนเหล่านั้นว่า “พวกท่านคือหัวหน้าครอบครัวของชาวเลวี พวกท่านและญาติๆของพวกท่านจะต้องชำระตัวเองให้บริสุทธิ์ เพื่อจะได้เป็นผู้นำหีบของพระยาห์เวห์พระเจ้าของอิสราเอลไปไว้ยังสถานที่ที่เราได้จัดเตรียมไว้ให้ |
๑๓. เพราะพวกท่านไม่ได้ไปกับพวกเราในครั้งแรกเพื่อไปหามหีบนั้น จึงทำให้พระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเราได้ระเบิดความโกรธใส่พวกเรา เพราะพวกเราไม่ได้ปรึกษากับพระองค์ว่าจะทำเรื่องนี้อย่างไรดีถึงจะเหมาะสม” |
๑๔. ดังนั้นเหล่านักบวชและชาวเลวีจึงได้ชำระตัวเองให้บริสุทธิ์เพื่อที่จะไปนำหีบของพระยาห์เวห์พระเจ้าของอิสราเอลขึ้นมา |
๑๕. และชาวเลวีก็ได้เป็นผู้หามหีบของพระเจ้าไว้บนบ่าด้วยคานหาม เหมือนกับที่โมเสสได้สั่งไว้ตามคำพูดของพระยาห์เวห์ |
๑๖. ดาวิดยังได้บอกกับพวกหัวหน้าของชาวเลวี ให้แต่งตั้งญาติๆของพวกเขาขึ้นเป็นนักร้อง เพื่อคอยเปล่งเสียงร้องเพลงอย่างชื่นชมยินดีไปพร้อมกับเสียงเครื่องดนตรีต่างๆ(มีทั้งเสียงพิณใหญ่ พิณเล็ก และฉาบ) |
๑๗. ดังนั้น ชาวเลวีจึงได้แต่งตั้งเฮมานลูกชายโยเอล และอาสาฟลูกชายของเบเรคิยาห์ ออกมาจากบรรดาญาติๆของเขา และยังได้แต่งตั้งเอธานลูกชายของคูชายาห์ออกจากบรรดาพี่น้องชาวเมรารีของพวกเขา |
๑๘. พวกเขาได้แต่งตั้งญาติๆของพวกเขาขึ้นเป็นผู้ช่วยคนเหล่านี้ คือ เศคาริยาห์ ยาอาซีเอล เชมิราโมท เยฮีเอล อุนนี เอลีอับ เบไนยาห์ มาอาเสอาห์ มัททีธิยาห์ เอลีเฟเลหุและมิกเนยาห์ และให้โอเบดเอโดมกับเยอีเอลเป็นคนเฝ้าประตู |
๑๙. เหล่านักร้องซึ่งประกอบไปด้วยเฮมาน อาสาฟและเอธานต้องเล่นฉาบทองสัมฤทธิ์ |
๒๐. เศคาริยาห์ อาซีเอล เชมิราโมท เยฮีเอล อุนนี เอลีอับ มาอาเสอาห์และเบไนยาห์เล่นพิณใหญ่ในแบบของอาลาโมท |
๒๑. ส่วนมัททีธิยาห์ เอลีเฟเลหุ มิกเนยาห์ โอเบดเอโดม เยอีเอลและอาซาซิยาห์เล่นพิณเล็กในแบบของเชมินิท |
๒๒. เคนานิยาห์ที่เป็นผู้นำในการร้องเพลงของชาวเลวีเป็นคนร้องนำเพราะเขามีความชำนาญในด้านนี้ |
๒๓. เบเรคิยาห์และเอลคานาห์เป็นนายประตูเฝ้าหีบใบนั้น |
๒๔. เหล่านักบวช คือ เชบานิยาห์ โยชาฟัท เนธันเอล อามาสัย เศคาริยาห์ เบไนยาห์และเอลีเยเซอร์เป็นคนเป่าแตรต่อหน้าหีบของพระเจ้า โอเบดเอโดมและเยฮียาห์เป็นนายประตูเฝ้าหีบใบนั้นด้วยเหมือนกัน |
๒๕. ดาวิด เหล่าผู้นำของอิสราเอลและบรรดาผู้นำกองพันก็ได้ไปนำหีบข้อตกลงของพระยาห์เวห์มาจากบ้านของโอเบดเอโดมด้วยความชื่นชมยินดี |
๒๖. และพระเจ้าก็ได้ช่วยเหลือพวกชาวเลวีที่กำลังแบกหีบข้อตกลงของพระยาห์เวห์นั้น พวกเขาได้ถวายเครื่องบูชาเป็นวัวตัวผู้เจ็ดตัวและแกะตัวผู้เจ็ดตัว |
๒๗. ดาวิด ชาวเลวีทั้งหมดที่แบกหีบกับพวกนักร้องและเคนานิยาห์ผู้นำวงนักร้อง ต่างก็สวมเสื้อชุดยาวที่ทำจากผ้าลินินอย่างดี และดาวิดก็สวมเอโฟดที่ทำจากลินินด้วยเหมือนกัน |
๒๘. ดังนั้นอิสราเอลทั้งหมดจึงได้ร่วมขบวนไปกับหีบข้อตกลงของพระยาห์เวห์ พร้อมกับร้องตะโกนไปอย่างสนุกสนาน พวกเขาได้เป่าแตรเขาสัตว์ แตรธรรมดา เล่นฉาบ พิณใหญ่และพิณเล็กไปด้วย |
๒๙. เมื่อหีบข้อตกลงของพระยาห์เวห์กำลังจะเข้าในเมืองของดาวิด นางมีคาลลูกสาวของซาอูลได้มองออกไปที่หน้าต่างและเห็นดาวิดกำลังเต้นรำและเล่นสนุกสนานอยู่ นางจึงคิดดูถูกเขาในใจ |
๑ พงศาวดาร ๑๖:๑-๔๓ |
๑. พวกเขาได้นำเอาหีบของพระเจ้าเข้ามาวางไว้ภายในเต็นท์ที่ดาวิดได้จัดตั้งขึ้นโดยเฉพาะ และพวกเขาก็ได้เผาสัตว์ทั้งตัวถวายเป็นเครื่องบูชา และถวายเครื่องสังสรรค์บูชาต่อหน้าพระเจ้า |
๒. เมื่อดาวิดได้ถวายเครื่องบูชาเหล่านั้นเสร็จแล้ว เขาก็ได้อวยพรให้กับประชาชนในนามของพระยาห์เวห์ |
๓. และเขาก็ได้แจกจ่ายขนมปังหนึ่งก้อน เค้กอินทผลัมกับขนมลูกเกดอัดให้กับชาวอิสราเอลทุกคนทั้งชายและหญิง |
๔. ดาวิดได้แต่งตั้งชาวเลวีบางคนให้ไปรับใช้อยู่ต่อหน้าหีบของพระยาห์เวห์ เพื่อให้เฉลิมฉลองพระเกียรติ ขอบคุณและสรรเสริญพระยาห์เวห์ พระเจ้าของอิสราเอล |
๕. อาสาฟได้เป็นหัวหน้าและมีเศคาริยาห์เป็นผู้ช่วย ยังมี เยอีเอล เชมิราโมท เยฮีเอล มัททีธิยาห์ เอลีอับ เบไนยาห์ โอเบดเอโดม และเยอีเอล เป็นผู้เล่นพิณใหญ่และพิณเล็ก ส่วนอาสาฟเป็นคนตีฉาบ |
๖. นักบวชเบไนยาห์กับนักบวชยาฮาซีเอลเป็นคนเป่าแตรอยู่ต่อหน้าหีบแห่งคำสัญญาของพระเจ้าเป็นประจำ |
๗. แล้วในวันนั้นเอง ดาวิดก็ได้ทำหน้าที่เป็นผู้นำในการขอบคุณพระยาห์เวห์ โดยอาศัยอาสาฟและญาติๆของอาสาฟคอยช่วยเหลือ |
๘. ให้ขอบคุณพระยาห์เวห์ ให้กระจายชื่อเสียงของพระองค์ออกไป ให้บอกชนชาติทั้งหลายถึงสิ่งที่พระองค์ทำ |
๙. ให้ร้องเพลงให้กับพระองค์ ให้ร้องเพลงสรรเสริญพระองค์ ใคร่ครวญถึงสิ่งน่าทึ่งทั้งหมดที่พระองค์ได้ทำ |
๑๐. โอ้อวดถึงชื่ออันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ ขอให้คนเหล่านั้นที่แสวงหาพระยาห์เวห์มีความสุขเถิด |
๑๑. ให้แสวงหาพระยาห์เวห์และพละกำลังที่มาจากพระองค์เถิด ให้แสวงหาหน้าของพระองค์อยู่เสมอ |
๑๒. ให้ระลึกถึงเรื่องน่าทึ่งทั้งหลายที่พระองค์ทำ ให้ระลึกถึงการอัศจรรย์ต่างๆที่พระองค์ทำและคำตัดสินทั้งหลายที่ออกมาจากปากของพระองค์ |
๑๓. ลูกหลานของอิสราเอลผู้รับใช้ของพระองค์เอ๋ย ลูกหลานของยาโคบพวกที่พระองค์ได้เลือกไว้เอ๋ย |
๑๔. พระองค์คือพระยาห์เวห์ พระเจ้าของพวกเรา คำตัดสินทั้งหลายของพระองค์จะเป็นจริงอย่างนั้นในทุกหนแห่งทั่วโลก |
๑๕. อย่างนั้น ให้จดจำข้อตกลงของพระองค์ตลอดไป คือคำสัญญาที่พระองค์ทำไว้กับคนของพระองค์เป็นพันรุ่น |
๑๖. พระองค์จะรักษาคำสัญญาที่ทำไว้กับอับราฮัม และคำสาบานของพระองค์ที่ให้ไว้กับอิสอัค |
๑๗. พระองค์ทำให้มันเป็นกฎสำหรับยาโคบ และเป็นข้อตกลงให้กับอิสราเอลตลอดไป |
๑๘. พระองค์พูดว่า “เราจะมอบดินแดนคานาอัน ให้เป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้าตลอดไป” |
๑๙. พระองค์ได้ทำสิ่งนี้ตอนที่พวกเขายังมีกันอยู่ไม่กี่คน และยังเป็นคนต่างด้าวแค่กระจุกเดียวในดินแดนนั้นอยู่เลย |
๒๐. พวกเขาเร่ร่อนพเนจรจากชนชาติหนึ่งไปอีกชนชาติหนึ่ง จากอาณาจักรหนึ่งไปยังอีกอาณาจักรหนึ่ง |
๒๑. แต่พระเจ้าไม่ยอมให้ใครข่มเหงพวกเขา พระองค์ได้เตือนพวกกษัตริย์ทั้งหลายว่า |
๒๒. “อย่าแตะต้องคนเหล่านั้นที่เราได้เลือกไว้แล้ว อย่าได้ทำร้ายพวกผู้พูดแทนเรา” |
๒๓. ทุกคนบนโลกนี้ ร้องเพลงให้กับพระยาห์เวห์เถิด ให้ประกาศวันแล้ววันเล่าถึงความรอดที่มาจากพระองค์ |
๒๔. ประกาศให้ชนชาติต่างๆรู้ถึงความยิ่งใหญ่ของพระองค์ ประกาศให้ทุกคนรู้ถึงสิ่งน่าทึ่งต่างๆที่พระองค์ทำ |
๒๕. เพราะพระยาห์เวห์นั้นยิ่งใหญ่และสมควรได้รับการสรรเสริญอย่างยิ่ง พระองค์น่ายำเกรงกว่าพระเจ้าทั้งปวง |
๒๖. เพราะพระเจ้าทั้งสิ้นของชนชาติเหล่านั้นเป็นแค่รูปเคารพ แต่พระยาห์เวห์เป็นผู้ที่สร้างฟ้าสวรรค์ |
๒๗. รัศมีและบารมีของพระองค์แผ่กระจายออกมาจากพระองค์ อำนาจและความชื่นบานอยู่ในบ้านของพระองค์ |
๒๘. ตระกูลของชนชาติต่างๆทั่วโลกเอ๋ย ให้สรรเสริญพระยาห์เวห์ สำหรับสง่าราศีและพละกำลังของพระยาห์เวห์เถิด |
๒๙. ให้สรรเสริญพระยาห์เวห์สำหรับชื่ออันมีสง่าราศีของพระองค์ ให้นำเครื่องบูชาเข้ามาอยู่ต่อหน้าพระองค์ ให้ก้มกราบลงต่อหน้าพระยาห์เวห์ในวิหารอันสง่างามของพระองค์ |
๓๐. มนุษย์บนแผ่นดินโลกทุกคนเอ๋ย ให้ตัวสั่นเทิ้มเมื่ออยู่เบื้องหน้าพระองค์เถิด โลกทั้งใบก็อยู่อย่างมั่นคงจะไม่มีวันสั่นคลอน |
๓๑. ขอให้ฟ้าสวรรค์เฉลิมฉลองกัน ขอให้แผ่นดินโลกชื่นชมยินดี ให้คนพูดกันท่ามกลางชนชาติทั้งหลายๆว่า “พระยาห์เวห์ทรงครอบครอง” |
๓๒. ขอให้ทะเลและทุกสิ่งทุกอย่างในทะเลนั้นโห่ร้องยินดี ให้ท้องทุ่งและทุกสิ่งทุกอย่างในมันร่าเริงยินดี |
๓๓. ขอให้ต้นไม้ในป่าชื่นชมยินดีต่อหน้าพระยาห์เวห์ เมื่อพระองค์กำลังเสด็จมา พระองค์กำลังมาตัดสินแผ่นดินโลกนี้ |
๓๔. ให้ขอบคุณพระยาห์เวห์เพราะพระองค์นั้นดีแท้ ความรักมั่นคงของพระองค์คงอยู่ตลอดไป |
๓๕. ให้ท่านพูดว่า “ข้าแต่พระเจ้า ผู้ช่วยให้รอดของพวกเรา ได้โปรดช่วยกู้พวกเราด้วยเถิด โปรดรวบรวมและช่วยพวกเราให้รอดพ้นจากชนชาติต่างๆ เพื่อพวกเราจะได้ขอบคุณชื่ออันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ แล้วจะได้โอ้อวดถึงสิ่งน่าสรรเสริญทั้งหลายที่พระองค์ได้ทำ |
๓๖. ขอสรรเสริญพระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล ผู้เป็นอยู่ตลอดมาและจะคงอยู่ตลอดไป แล้วประชาชนทั้งหลายก็พูดว่า ‘อาเมน’ และพวกเขาได้สรรเสริญพระยาห์เวห์” |
๓๗. ดาวิดได้ทิ้งให้อาสาฟกับญาติๆของเขาไว้ ให้อยู่ต่อหน้าหีบแห่งข้อตกลงของพระยาห์เวห์ เพื่อรับใช้ประจำต่อหน้าหีบตามงานที่ต้องทำในแต่ละวันนั้น |
๓๘. ดาวิดก็ได้ให้โอเบดเอโดมและเยฮียาห์กับญาติๆของพวกเขาอีกหกสิบแปดคน อยู่ที่นั่นด้วย โอเบดเอโดมลูกชายของเยดูธูนกับโฮสาห์เป็นคนเฝ้าประตู |
๓๙. และที่หน้าเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์ ของพระยาห์เวห์ ที่ตั้งอยู่ในสถานที่สูง ในกิเบโอน มีนักบวชศาโดกและเหล่านักบวชเพื่อนๆของเขา |
๔๐. ทำหน้าที่เผาสัตว์ทั้งตัวบนแท่นบูชาถวายเป็นเครื่องบูชาให้กับพระยาห์เวห์เป็นประจำทุกเช้าเย็นตามทุกสิ่งที่ได้เขียนไว้ในกฏของพระยาห์เวห์ ที่พระองค์ได้สั่งไว้กับชนชาติอิสราเอล |
๔๑. ยังมีเฮมาน เยดูธูนและคนอื่นๆที่ได้รับเลือกและถูกระบุชื่อไว้ให้อยู่ที่นั่นเพื่อร้องเพลงขอบคุณพระยาห์เวห์ อย่างเช่น “เพราะความรักมั่นคงของพระองค์คงอยู่ตลอดไป” |
๔๒. มีพวกแตรและฉาบอยู่ที่นั่นกับเฮมานและเยดูธูนด้วย เพื่อให้คนเหล่านั้นใช้มันเล่นบรรเลงประกอบเพลงถวายให้กับพระเจ้า และบรรดาลูกชายของเยดูธูนเป็นคนเฝ้าประตู |
๔๓. แล้วประชาชนทั้งหมดก็กลับบ้าน และดาวิดก็กลับวังของเขาเพื่อที่จะไปอวยพรให้กับครอบครัวของเขา |
สดุดี ๗๘:๑๒-๑๖ |
๑๒. พระเจ้าทำสิ่งน่าทึ่งต่างๆต่อหน้าต่อตาบรรพบุรุษของพวกเขา ในแคว้นโศอันในแผ่นดินอียิปต์ |
๑๓. พระเจ้าแหวกทะเลออกและนำพวกเขาเดินทะลุไป พระองค์ทำให้น้ำตั้งขึ้นเหมือนกำแพงทั้งสองข้าง |
๑๔. พระองค์นำทางพวกเขาด้วยเมฆในตอนกลางวัน และนำด้วยแสงไฟตลอดคืน |
๑๕. พระองค์ทุบหินในทะเลทรายแยกออก และน้ำก็ไหลพุ่งออกมามากมายให้พวกเขาดื่มเหมือนกับมาจากทะเลลึก |
๑๖. พระองค์ทำให้พวกลำธารไหลออกมาจากหินผา พระองค์ทำให้น้ำไหลเหมือนพวกแม่น้ำ |
สุภาษิต ๑๙:๒๒-๒๔ |
๒๒. ความโลภเป็นเรื่องน่าอับอาย เป็นคนจนดีกว่าเป็นคนโกหก |
๒๓. ความยำเกรงพระยาห์เวห์นำไปสู่ชีวิต ทำให้ผู้นั้นได้พักผ่อนอย่างเป็นสุข ไม่มีภัยอันตรายมากล้ำกรายได้ |
๒๔. คนขี้เกียจซุกมือไว้ในชาม และไม่ยอมแม้แต่จะยกอาหารเข้าปาก |
กิจการของอัครทูต ๗:๔๔-๖๐ |
๔๔. บรรพบุรุษของพวกเราในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งมีเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์อยู่ด้วย ซึ่งเป็นเต็นท์ที่พระเจ้าบอกให้โมเสสทำขึ้นตามแบบที่พระองค์แสดงให้เขาเห็น |
๔๕. เมื่อบรรพบุรุษของเราได้เต็นท์มา ก็นำเข้าไปไว้ในดินแดนที่บรรพบุรุษของเราได้ยึดครองมาจากชนชาติต่างๆที่พระเจ้าได้ขับไล่ออกไปต่อหน้าบรรพบุรุษของเราโดยการนำของโยชูวา และเต็นท์นี้ก็ได้อยู่ที่นั่นเรื่อยมาจนถึงสมัยของกษัตริย์ดาวิด |
๔๖. พระเจ้าชอบใจดาวิดมาก ดาวิดขอสร้างบ้านให้กับพระเจ้าของยาโคบ |
๔๗. แต่กลับกลายเป็นซาโลมอนที่สร้างบ้านให้พระองค์ |
๔๘. อย่างไรก็ตาม องค์ผู้สูงสุดไม่ได้อยู่ในบ้านที่สร้างด้วยมือของมนุษย์หรอก เหมือนกับที่ผู้พูดแทนพระเจ้า พูดไว้ว่า |
๔๙. ‘สวรรค์เป็นบัลลังก์ของเรา และโลกคือแท่นรองเท้าของเรา องค์เจ้าชีวิตถามว่า แล้วพวกเจ้าจะสร้างบ้านแบบไหนให้กับเราล่ะ หรือจะให้เราพักผ่อนที่ไหนล่ะ |
๕๐. ไม่ใช่มือเราหรอกหรือที่สร้างสรรพสิ่งเหล่านี้ขึ้นมา’ |
๕๑. พวกคุณหัวแข็ง ใจแข็งกระด้างและดื้อดึง พวกคุณได้แต่ต่อต้านพระวิญญาณบริสุทธิ์เหมือนกับบรรพบุรุษของคุณ |
๕๒. มีผู้พูดแทนพระเจ้าคนไหนบ้าง ที่บรรพบุรุษของคุณไม่ได้ข่มเหง พวกเขาฆ่าแม้กระทั่งคนพวกนั้นที่นานมาแล้วได้ประกาศถึงการมาขององค์ผู้ศักดิ์สิทธิ์ และตอนนี้พวกคุณก็ได้ทรยศและฆ่าพระองค์แล้ว |
๕๓. พวกคุณนั่นแหละ เป็นพวกที่ได้รับกฎปฏิบัติที่พวกทูตสวรรค์นำมา แต่พวกคุณก็ไม่ยอมเชื่อฟังกฎนั้น” |
๕๔. เมื่อผู้นำชาวยิวได้ยินอย่างนั้น ต่างก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ พวกเขาแยกเขี้ยวยิงฟันเข้าใส่สเทเฟน |
๕๕. แต่สเทเฟนเต็มไปด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ เขามองขึ้นบนท้องฟ้า และได้เห็นความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า และเห็นพระเยซูยืนอยู่ด้านขวาของพระองค์ |
๕๖. เขาจึงพูดขึ้นว่า “ดูนั่นสิ ผมเห็นสวรรค์เปิด และบุตรมนุษย์ยืนอยู่ด้านขวาของพระเจ้า” |
๕๗. ขณะเดียวกัน พวกนั้นก็แหกปากร้องตะโกน เอามืออุดหู และต่างวิ่งกรูกันเข้าใส่สเทเฟน |
๕๘. พวกเขาลากสเทเฟนออกนอกเมืองและเอาหินขว้างเขา พวกที่พูดปรักปรำใส่ร้ายเขาต่างก็ทิ้งเสื้อคลุมของตนไว้ที่เท้าของชายหนุ่มที่ชื่อเซาโล |
๕๙. จากนั้นพวกเขาได้เอาก้อนหินขว้างสเทเฟน ที่กำลังอธิษฐานว่า “พระเยซูเจ้า รับจิตวิญญาณของข้าพเจ้าด้วย” |
๖๐. แล้วเขาก็คุกเข่า ร้องเสียงดังว่า “องค์เจ้าชีวิต อย่าถือโทษที่พวกเขาทำบาปครั้งนี้เลย” พออธิษฐานจบ สเทเฟนก็ตาย |